5 พฤติกรรมการกินที่ควรเปลี่ยนเมื่ออายุ 30

5 พฤติกรรมการกินที่ควรเปลี่ยนเมื่ออายุ 30 01

พฤติกรรมการกินของคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ วัย 30 เป็นวัยที่ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากวัยหนุ่มสาว อัตราการเผาผลาญพลังงานลดลง มวลกล้ามเนื้อลดลง ความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคมะเร็ง เพิ่มขึ้น ดังนั้น การปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสมกับวัยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

  1. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่

การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่

  • คาร์โบไฮเดรต ให้พลังงาน
  • โปรตีน สร้างและซ่อมแซมเซลล์
  • ไขมัน เป็นแหล่งพลังงานและช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารบางชนิด
  • วิตามิน แร่ธาตุ ควบคุมการทำงานของร่างกาย

ในแต่ละวันควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นผักและผลไม้ให้มากขึ้น ตัวอย่างการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ได้แก่

  • มื้อเช้า ข้าวกล้อง ไข่ต้ม นม ผลไม้
  • มื้อกลางวัน ข้าวกล้อง ผักลวก ปลานึ่ง ผลไม้
  • มื้อเย็น ข้าวกล้อง ผักต้ม ผัดผัก เต้าหู้ ผลไม้
5 พฤติกรรมการกินที่ควรเปลี่ยนเมื่ออายุ 30 02
  1. เลือกกินอาหารที่มีใยอาหารสูง

ใยอาหารช่วยในการย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องผูก และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แหล่งอาหารที่มีใยอาหารสูง ได้แก่

  • ผักและผลไม้ เช่น ผักกาดขาว ผักบุ้ง บร็อคโคลี แตงโม ส้ม
  • ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ขนมปังโฮลวีต
  • ถั่วเมล็ดพืชต่างๆ เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วเหลือง เมล็ดเจีย

ควรเลือกกินอาหารที่มีใยอาหารสูงอย่างน้อย 25-30 กรัมต่อวัน

  1. ลดการกินอาหารแปรรูป

อาหารแปรรูปมักมีไขมัน น้ำตาล และโซเดียมสูง ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง เป็นต้น

ตัวอย่างอาหารแปรรูป ได้แก่ ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม อาหารสำเร็จรูปต่างๆ

ควรลดการกินอาหารแปรรูปให้ได้มากที่สุด หรือกินแต่น้อย

  1. ควบคุมปริมาณการกิน

การกินมากเกินไป ไม่ว่าจะกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพหรือไม่ก็ตาม ล้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้น ควรควบคุมปริมาณการกินให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย

ควรใช้จานขนาดเล็กลง เพื่อช่วยให้กินอาหารได้น้อยลง

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

น้ำเปล่าเป็นเครื่องดื่มที่ดีที่สุด หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม ชานมไข่มุก

นอกจากพฤติกรรมการกินแล้ว การดูแลสุขภาพในด้านอื่นๆ เช่น การออกกำลังกาย การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็มีความสำคัญเช่นกัน การดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ

Articles You Might Like

Share This Article

Get Your Weekly Sport Dose

Subscribe to TheWhistle and recieve notifications on new sports posts