โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมในร่างกายมากเกินไป ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันจมูก คันตา ตาบวม ไอ หายใจลำบาก เป็นต้น โรคภูมิแพ้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยสาเหตุของโรคภูมิแพ้นั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน เช่น พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม อาหาร และการติดเชื้อ
วิธีลดความเสี่ยงการเกิดภูมิแพ้สามารถทำได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ สารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อย ได้แก่ ไรฝุ่น แมลงสาบ ขนสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่นละอองจากอากาศ สารเคมี อาหารบางชนิด เป็นต้น ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ โดยอาจทำตามคำแนะนำดังนี้
- รักษาความสะอาดบ้านอยู่เสมอ โดยดูดฝุ่น เช็ดถูพื้นและเฟอร์นิเจอร์อย่างสม่ำเสมอ ซักและอบผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่มด้วยน้ำร้อนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
- หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์ในบ้าน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับละอองเกสรดอกไม้ โดยสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่กลางแจ้งในช่วงที่มีดอกบาน
- สวมแว่นตากันฝุ่นละออง
- ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เน้นผักและผลไม้สด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง ไขมันสูง และอาหารแปรรูป
- ควบคุมน้ำหนัก การมีน้ำหนักเกินหรืออ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ ดังนั้นควรควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมได้ดี
- งดสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้และทำให้อาการของโรคภูมิแพ้รุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม โดยแพทย์อาจพิจารณาให้ยาลดอาการภูมิแพ้หรือภูมิคุ้มกันบำบัด
การป้องกันตนเองจากโรคภูมิแพ้สามารถทำได้โดยปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะช่วยให้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ได้มากที่สุด