การรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบันมีหลากหลายวิธี โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 7 วิธีหลัก ๆ ดังนี้
1. การผ่าตัด
การผ่าตัดเป็นวิธีหลักในการรักษาโรคมะเร็ง โดยแพทย์จะทำการเอาเนื้องอกมะเร็งออกให้หมด ซึ่งอาจใช้วิธีการผ่าตัดแบบเปิดแผลใหญ่ หรือการผ่าตัดแบบส่องกล้องก็ได้ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของเนื้องอกมะเร็ง
การผ่าตัดมีข้อดีคือ สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งออกได้ทั้งหมด ทำให้มีโอกาสหายขาดสูง แต่การผ่าตัดก็มีข้อเสียคือ อาจทำให้เกิดแผลผ่าตัด สูญเสียอวัยวะ หรือเกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมา
2. การใช้ยาเคมีบำบัด
ยาเคมีบำบัดเป็นการใช้ยาฆ่าเซลล์มะเร็ง โดยยาเคมีบำบัดจะทำลายเซลล์มะเร็งทั้งเซลล์ปกติและเซลล์มะเร็งพร้อมกัน แต่ยาเคมีบำบัดก็มีผลข้างเคียงต่อเซลล์ปกติด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ผมร่วง อ่อนเพลีย โลหิตจาง เป็นต้น
ยาเคมีบำบัดมักใช้รักษามะเร็งระยะลุกลามหรือมะเร็งที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ โดยอาจใช้ร่วมกับวิธีรักษาอื่น ๆ เช่น รังสีรักษาหรือภูมิคุ้มกันบำบัด
3. การใช้ยามุ่งเป้า
ยามุ่งเป้าเป็นการใช้ยาที่ออกแบบมาเพื่อทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็ง โดยยามุ่งเป้าจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของยีนหรือโปรตีนที่ผิดปกติในเซลล์มะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งตายได้
ยามุ่งเป้ามักใช้รักษามะเร็งระยะลุกลามหรือมะเร็งที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ โดยอาจใช้ร่วมกับวิธีรักษาอื่น ๆ เช่น รังสีรักษาหรือภูมิคุ้มกันบำบัด
4. การใช้รังสีรักษา
รังสีรักษาเป็นการใช้รังสีเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง โดยรังสีรักษาสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้ทั้งเซลล์ปกติและเซลล์มะเร็งพร้อมกัน แต่รังสีรักษาก็มีผลข้างเคียงต่อเซลล์ปกติด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการผิวหนังไหม้ อ่อนเพลีย อ่อนแรง เป็นต้น
รังสีรักษามักใช้รักษามะเร็งระยะลุกลามหรือมะเร็งที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ โดยอาจใช้ร่วมกับวิธีรักษาอื่น ๆ เช่น ยาเคมีบำบัดหรือภูมิคุ้มกันบำบัด
5. การใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด
ภูมิคุ้มกันบำบัดเป็นการใช้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง โดยภูมิคุ้มกันบำบัดจะกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจดจำเซลล์มะเร็งและทำลายเซลล์มะเร็งได้
ภูมิคุ้มกันบำบัดมักใช้รักษามะเร็งระยะลุกลามหรือมะเร็งที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ โดยอาจใช้ร่วมกับวิธีรักษาอื่น ๆ เช่น ยาเคมีบำบัดหรือรังสีรักษา
6. การใช้ฮอร์โมนบำบัด
ฮอร์โมนบำบัดเป็นการใช้ฮอร์โมนเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยฮอร์โมนบำบัดมักใช้รักษามะเร็งที่เกิดจากเซลล์ที่มีฮอร์โมนเป็นตัวกระตุ้น เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น
ฮอร์โมนบำบัดมักใช้รักษามะเร็งระยะลุกลามหรือมะเร็งที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ โดยอาจใช้ร่วมกับวิธีรักษาอื่น ๆ เช่น ยาเคมีบำบัดหรือรังสีรักษา
นวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็ง
นอกจากการรักษาด้วยวิธีดั้งเดิมแล้ว ยังมีนวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็งใหม่ ๆ ที่กำลังพัฒนาอยู่ เช่น
- การรักษาด้วยเซลล์ CAR-T เป็นการใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยเองที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมให้สามารถจดจำและทำลายเซลล์มะเร็งได้
- การรักษาด้วยยาต้านเนื้องอกแบบใหม่ เช่น ยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง หรือยาที่ออกฤทธิ์ทำลายเซลล์มะเร็งแบบจำเพาะมากขึ้น
- **การรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการตรวจหาและรักษาโรคมะเร็ง
การพัฒนานวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็งเหล่านี้ จะช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดผลข้างเคียงของการรักษา