ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย มีหน้าที่ในการย่อยอาหาร เผาผลาญพลังงาน กำจัดสารพิษ และสร้างสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพตับให้แข็งแรงอยู่เสมอ หนึ่งในวิธีดูแลสุขภาพตับที่ดีที่สุดคือการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารบำรุงตับ ช่วยให้ตับแข็งแรง ห่างไกลโรค
1. ผักใบเขียว
ผักใบเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน และสารแคโรทีนอยด์อื่นๆ สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ช่วยปกป้องตับจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งอนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรที่อาจก่อตัวขึ้นตามธรรมชาติหรือเป็นผลมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น การสัมผัสกับสารพิษ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และการดื่มแอลกอฮอล์
ผักใบเขียวที่มีประโยชน์ต่อตับ ได้แก่ ผักโขม ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม เป็นต้น ผักใบเขียวเหล่านี้สามารถรับประทานสด ต้ม หรือนึ่งได้
2. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน (anthocyanin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องตับจากความเสียหาย สารแอนโทไซยานินยังช่วยให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สามารถรับประทานสดหรือทำเป็นน้ำผลไม้ได้
3. ถั่ว
ถั่วเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ โปรตีนช่วยซ่อมแซมเซลล์ตับที่ถูกทำลาย ไฟเบอร์ช่วยในการขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย และสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องตับจากความเสียหาย
ถั่วชนิดต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อตับ ได้แก่ ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วอัลมอนด์ ถั่วพิสตาชิโอ เป็นต้น
4. ธัญพืชไม่ขัดสี
ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ อุดมไปด้วยไฟเบอร์ สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินอี ไฟเบอร์ช่วยในการขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย และสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องตับจากความเสียหาย
5. ปลา
ปลาเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมันดี และโอเมก้า 3 โปรตีนช่วยซ่อมแซมเซลล์ตับที่ถูกทำลาย ไขมันดีช่วยปกป้องตับจากความเสียหาย และโอเมก้า 3 ช่วยในการลดการอักเสบ
ปลาชนิดต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อตับ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลากะพง ปลาซาร์ดีน เป็นต้น
6. น้ำ
การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายและช่วยให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ใหญ่ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตร
7. ชาเขียว
ชาเขียวอุดมไปด้วยสารคาเทชิน (catechin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องตับจากความเสียหาย
8. กระเทียม
กระเทียมมีสารอัลลิซิน (allicin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องตับจากความเสียหาย
9. ขมิ้นชัน
ขมิ้นชันมีสารเคอร์คูมิน (curcumin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องตับจากความเสียหาย
10. ขิง
ขิงมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยปกป้องตับจากความเสียหาย
นอกจากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ตับเสียหาย เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง การสูดดมควันบุหรี่ และการใช้ยาบางชนิด
การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นประจำเป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับแข็ง การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงอาจทำให้ตับทำงานหนักขึ้นและอาจนำไปสู่ภาวะไขมันพอกตับ การสูดดมควันบุหรี่อาจทำให้ตับเสียหาย และการใช้ยาบางชนิดอาจส่งผลเสียต่อตับ
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ตับเสียหาย จะช่วยดูแลสุขภาพตับให้แข็งแรง ห่างไกลโรค