โรคสมองเสื่อมเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานของสมองเสื่อมลง ส่งผลให้เกิดอาการความจำเสื่อม มีปัญหาในการใช้ภาษา การตัดสินใจ และการเคลื่อนไหว โรคสมองเสื่อมมีหลายประเภท สาเหตุที่ชัดเจนยังไม่ทราบ แต่ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคสมองเสื่อม ได้แก่
- อายุที่มากขึ้น
- ประวัติครอบครัว
- โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง
- ภาวะโภชนาการไม่ดี
- การสูบบุหรี่
- การดื่มแอลกอฮอล์
- การบาดเจ็บที่ศีรษะ
วิธีป้องกันโรคสมองเสื่อมสามารถทำได้โดยลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ดังนี้
- ควบคุมโรคประจำตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- ป้องกันอุบัติเหตุที่ศีรษะ
- ฝึกสมองให้ทำงานอย่างสม่ำเสมอ เช่น อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ คิดเลข เล่นเกม
- พบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพสมองเป็นประจำ
แนวทางการป้องกันโรคสมองเสื่อมที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการป้องกันปัจจัยเสี่ยงที่แก้ไขได้ เช่น การควบคุมโรคประจำตัว รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ การส่งเสริมให้สมองทำงานอย่างสม่ำเสมอก็อาจช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างกิจกรรมที่จะช่วยฝึกสมองให้ทำงานอย่างสม่ำเสมอ
- อ่านหนังสือหรือบทความใหม่ๆ
- เขียนไดอารี่หรือจดบันทึก
- เล่นเกมฝึกสมอง เช่น เกมปริศนา เกมจับคู่ภาพ เป็นต้น
- เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เช่น ภาษาใหม่ ทักษะใหม่ๆ เป็นต้น
- เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม เช่น การเข้าชมรม การทำงานอาสาสมัคร เป็นต้น
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดำเนินชีวิตเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของโรคสมองเสื่อมสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปควรเริ่มดูแลสุขภาพสมองตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคสมองเสื่อมในอนาคต