ปวดรอบใบหน้า คัดจมูก น้ำมูกเขียว อาจเสี่ยง โรคไซนัสอักเสบ

สาเหตุของโรคไซนัสอักเสบ

ปวดรอบใบหน้า คัดจมูก น้ำมูกเขียว อาจเสี่ยง โรคไซนัสอักเสบ 01 (2)

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคไซนัสอักเสบคือการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย การติดเชื้อเหล่านี้มักเกิดขึ้นหลังเป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ เชื้อโรคจะเข้าไปยังโพรงไซนัสผ่านทางจมูกและลำคอ ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุไซนัส และส่งผลให้เกิดการอุดตันของโพรงไซนัส

สาเหตุอื่น ๆ ของโรคไซนัสอักเสบ ได้แก่

  • ภูมิแพ้ ภูมิแพ้เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยของไซนัสอักเสบเรื้อรัง โดยภูมิแพ้จะกระตุ้นให้เยื่อบุไซนัสอักเสบ ส่งผลให้เกิดการอุดตันของโพรงไซนัส
  • การเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศ การเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศ เช่น การขึ้นเครื่องบิน การดำน้ำ หรือการเดินทางด้วยรถยนต์เร็ว ๆ ก็สามารถกระตุ้นให้เยื่อบุไซนัสอักเสบได้
  • สิ่งแปลกปลอมอุดตันโพรงไซนัส สิ่งแปลกปลอม เช่น เศษกระดูก เศษฝุ่น หรือแมลง สามารถอุดตันโพรงไซนัส และส่งผลให้เกิดการอักเสบ
  • โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้เป็นภาวะที่เยื่อบุจมูกอักเสบจากการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสร หรือขนสัตว์ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้สามารถเป็นสาเหตุของไซนัสอักเสบได้
  • โรคริดสีดวงจมูก โรคริดสีดวงจมูกเป็นภาวะที่เยื่อบุจมูกบวม และมีเนื้อเยื่อยื่นออกมาจากโพรงจมูก โรคริดสีดวงจมูกสามารถอุดตันโพรงไซนัส และส่งผลให้เกิดการอักเสบ
  • โรคเนื้องอกในโพรงไซนัส โรคเนื้องอกในโพรงไซนัสสามารถทำให้เกิดการอุดตันของโพรงไซนัส และส่งผลให้เกิดการอักเสบ

อาการของโรคไซนัสอักเสบ

ปวดรอบใบหน้า คัดจมูก น้ำมูกเขียว อาจเสี่ยง โรคไซนัสอักเสบ 03

อาการของโรคไซนัสอักเสบที่พบบ่อย ได้แก่

  • ปวดรอบใบหน้า มักปวดบริเวณหน้าผาก หัวตา โหนกแก้ม จมูก หรือรอบๆ กระบอกตา
  • คัดจมูก หายใจลำบาก
  • น้ำมูกไหล มักเป็นน้ำมูกข้นเหนียวหรือมีหนอง
  • ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น
  • ไอ
  • เจ็บคอ
  • ปวดหู
  • ปวดฟัน
  • อ่อนเพลีย

ในบางรายอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การรับกลิ่นลดลง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เป็นต้น

การวินิจฉัยโรคไซนัสอักเสบ

แพทย์จะวินิจฉัยโรคไซนัสอักเสบจากประวัติอาการ การตรวจร่างกาย และการตรวจเพิ่มเติม เช่น

  • การถ่ายภาพรังสีคอมพิวเตอร์ (CT scan) เป็นการตรวจที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคไซนัสอักเสบได้อย่างแม่นยำ
  • การเอกซเรย์โพรงไซนัส เป็นการตรวจที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคไซนัสอักเสบเบื้องต้น
  • การถ่ายภาพคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เป็นการตรวจที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคไซนัสอักเสบที่มีความซับซ้อน

การรักษาโรคไซนัสอักเสบ

การรักษาโรคไซนัสอักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ โดยอาจใช้การรักษาดังนี้

  • ยาปฏิชีวนะ ยาปฏิชีวนะใช้รักษาโรคไซนัสอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
  • ยาแก้ปวด ยาแก้ปวดใช้บรรเทาอาการปวด
  • ยาลดน้ำมูก ยาลดน้ำมูกใช้บรรเทาอาการคัดจมูก
  • การผ่าตัด การผ่าตัดอาจจำเป็นในการรักษาโรคไซนัสอักเสบที่รุนแรงหรือเรื้อรัง

การป้องกันโรคไซนัสอักเสบ

การป้องกันโรคไซนัสอักเสบสามารถทำได้โดย

  • รักษาความสะอาดจมูกและช่องปาก
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ที่เป็นโรคหวัดหรือไข้หวัดใหญ่
  • สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ที่มีคนจำนวนมาก
  • ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือบ่อยๆ
  • หลีกเลี่ยงการสูดดมควันบุหรี่หรือมลพิษทางอากาศ

หากมีอาการปวดรอบใบหน้า คัดจมูก น้ำมูกเขียว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้อาการรุนแรงขึ้นและเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา

Articles You Might Like

Share This Article

Get Your Weekly Sport Dose

Subscribe to TheWhistle and recieve notifications on new sports posts