ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ยังไม่ผ่านการขัดสี จึงยังคงมีสารอาหารต่างๆ มากกว่าข้าวขาว เช่น ใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้
ช่วยควบคุมน้ำหนัก
ข้าวกล้องมีใยอาหารสูงถึง 10.5 กรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งมากกว่าข้าวขาวที่มีใยอาหารเพียง 2.8 กรัมต่อ 100 กรัม ใยอาหารจะช่วยทำให้อิ่มท้องได้นานขึ้น จึงช่วยลดการรับประทานอาหารมากเกินไป และช่วยควบคุมน้ำหนักได้
ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
ข้าวกล้องอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง
ช่วยบำรุงระบบย่อยอาหาร
ใยอาหารในข้าวกล้องช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ จึงช่วยป้องกันอาการท้องผูก และช่วยส่งเสริมสุขภาพของระบบย่อยอาหาร
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ข้าวกล้องมีไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ซึ่งช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด จึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด
ข้าวกล้องมีใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิด LDL (Low-density lipoprotein) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีที่เกาะติดกับผนังหลอดเลือดและอาจทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
แคลเซียมและแมกนีเซียมสูง
ข้าวกล้องยังมีแคลเซียมและแมกนีเซียมสูง ซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ปริมาณที่แนะนำ
ควรรับประทานข้าวกล้องประมาณ 2-3 ทัพพีต่อวัน ข้าวกล้องสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย เช่น ข้าวผัด ข้าวต้ม ข้าวกล้องอบ เป็นต้น
ข้อควรระวัง
ข้าวกล้องมีใยอาหารสูง จึงอาจทำให้ท้องอืดหรือท้องเสียได้สำหรับผู้ที่รับประทานครั้งแรก ควรรับประทานในปริมาณน้อยๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นทีละน้อย
ตัวอย่างเมนูอาหารจากข้าวกล้อง
- ข้าวกล้องผัด : ใส่ข้าวกล้อง ไข่ ผัก และเนื้อสัตว์ที่ชอบลงไปผัด
- ข้าวกล้องต้ม : ต้มข้าวกล้องกับน้ำสะอาดจนสุก
- ข้าวกล้องอบ : นำข้าวกล้องไปอบในเตาอบจนสุก
ข้าวกล้องเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีประโยชน์มากมาย จึงควรรับประทานเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดี
