“มื้อเย็น” สำคัญ ควรทานเวลาไหน เวลาไหนที่ไม่ควรทานอาหารแล้ว

มื้อเย็น ควรทานเวลาไหน เวลาไหนที่ไม่ควรทานอาหารแล้ว 02

โดยทั่วไป มื้อเย็นควรเป็นเวลาก่อนเวลาเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมคือประมาณ 16.00-18.00 น. เนื่องจากร่างกายต้องการเวลาในการย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหาร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง หากเรากินอาหารเย็นก่อนเข้านอนเพียง 2-3 ชั่วโมง ร่างกายจะไม่สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ทัน ส่งผลให้แคลอรี่สะสมกลายเป็นไขมันส่วนเกิน ทำให้เกิดปัญหาน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนได้ นอกจากนี้ การกินอาหารมื้อเย็นก่อนเข้านอนยังอาจทำให้นอนหลับยาก เนื่องจากร่างกายต้องทำงานย่อยอาหาร ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับได้

  • มื้อเช้า เป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน เนื่องจากร่างกายเพิ่งตื่นจากการนอนหลับเป็นเวลานาน ร่างกายต้องการพลังงานเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ มื้อเช้าควรทานให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ธัญพืชต่างๆ ช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่มนาน และช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น
  • มื้อกลางวัน เป็นมื้อที่ร่างกายใช้พลังงานมากที่สุด เนื่องจากต้องทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ มื้อกลางวันควรทานให้อิ่มพอประมาณ เน้นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ผักและผลไม้ เพื่อช่วยให้ร่างกายมีพลังงานในการทำงานตลอดวัน
  • มื้อเย็น เป็นมื้อสุดท้ายของวัน ก่อนเข้านอน มื้อเย็นควรทานให้เบาๆ เน้นอาหารที่มีไขมันต่ำ ย่อยง่าย เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ย่อยยาก เช่น อาหารทอด อาหารมัน อาหารที่มีน้ำตาลสูง เนื่องจากร่างกายต้องการเวลาในการย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหาร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง หากเรากินอาหารเย็นก่อนเข้านอนเพียง 2-3 ชั่วโมง ร่างกายจะไม่สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ทัน ส่งผลให้แคลอรี่สะสมกลายเป็นไขมันส่วนเกิน ทำให้เกิดปัญหาน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วนได้ นอกจากนี้ การกินอาหารมื้อเย็นก่อนเข้านอนยังอาจทำให้นอนหลับยาก เนื่องจากร่างกายต้องทำงานย่อยอาหาร ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับได้
มื้อเย็น ควรทานเวลาไหน เวลาไหนที่ไม่ควรทานอาหารแล้ว 03

นอกจากช่วงเวลาในการทานอาหารแล้ว การเลือกทานอาหารให้เหมาะสมกับช่วงเวลาก็มีความสำคัญเช่นกัน ดังนี้

  • ก่อนออกกำลังกาย ควรทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ผลไม้ เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานในการออกกำลัง
  • หลังออกกำลังกาย ควรทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ธัญพืชต่างๆ เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
  • ก่อนนอน ควรทานอาหารที่มีไขมันต่ำ ย่อยง่าย เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ย่อยยาก เช่น อาหารทอด อาหารมัน อาหารที่มีน้ำตาลสูง

โดยสรุปแล้ว ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทานอาหารของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ไลฟ์สไตล์ การทำงาน หรือกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน ควรเลือกช่วงเวลาในการทานอาหารที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ และส่งผลดีต่อสุขภาพ

Articles You Might Like

Share This Article

Get Your Weekly Sport Dose

Subscribe to TheWhistle and recieve notifications on new sports posts