ภูมิแพ้ ไข้หวัด และโควิด-19 ต่างกันยังไง


ภูมิแพ้
เกิดจากร่างกายตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ (Allergen) ซึ่งเป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อคนทั่วไป แต่อาจทำให้ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้เกิดอาการแพ้ได้ สารก่อภูมิแพ้ที่พบได้บ่อย ได้แก่ เกสรดอกไม้ ฝุ่นละออง ไรฝุ่น ขนสัตว์ อาหารบางชนิด เป็นต้น

ภูมิแพ้ ไข้หวัด และโควิด-19 ต่างกันยังไง 01

อาการของภูมิแพ้ มักเกิดขึ้นทันทีเมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ อาการที่พบบ่อย ได้แก่

  • จาม
  • คัดจมูก
  • น้ำมูกไหล
  • คันจมูก คันตา
  • ไอ
  • หายใจลำบาก

ระยะเวลาของอาการภูมิแพ้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและปริมาณของสารก่อภูมิแพ้ที่สัมผัส โดยทั่วไปอาการจะหายไปเมื่อร่างกายไม่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้นั้นอีก

การรักษาภูมิแพ้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ การรักษาหลัก ได้แก่

  • การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้
  • การใช้ยาแก้แพ้
  • การใช้ยาสเตียรอยด์
  • การใช้ยาฉีดภูมิคุ้มกัน

ไข้หวัด เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัด (Influenza virus) ซึ่งติดต่อผ่านทางละอองฝอยจากการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อ ไข้หวัดมักระบาดในช่วงฤดูหนาว

อาการของไข้หวัด มักเกิดขึ้น 1-3 วันหลังสัมผัสกับเชื้อไวรัส อาการที่พบบ่อย ได้แก่

  • ไข้
  • ไอ
  • น้ำมูกไหล
  • เจ็บคอ
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • อ่อนเพลีย
  • อาจมีปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย

ระยะเวลาของไข้หวัด โดยทั่วไปอาการจะหายไปเองภายใน 7-10 วัน

การรักษาไข้หวัด การรักษาหลัก ได้แก่ การพักผ่อน ดื่มน้ำให้เพียงพอ ทานยาลดไข้ ยาแก้ไอ ยาแก้คัดจมูก ยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ

โควิด-19 เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) ซึ่งติดต่อผ่านทางละอองฝอยจากการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อ โควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ร้ายแรงและสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว

ภูมิแพ้ ไข้หวัด และโควิด-19 ต่างกันยังไง 02

อาการของโควิด-19 มักเกิดขึ้น 2-14 วันหลังสัมผัสกับเชื้อไวรัส อาการที่พบบ่อย ได้แก่

  • ไข้
  • ไอ
  • เหนื่อยหอบ
  • เจ็บคอ
  • มีน้ำมูก
  • ปวดกล้ามเนื้อ
  • ปวดศีรษะ
  • อาจมีเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว จมูกไม่ได้กลิ่นหรือรับรสร่วมด้วย บางคนอาจมีอาการรุนแรง เช่น ปอดบวม หายใจลำบาก จนถึงเสียชีวิตได้

ระยะเวลาของอาการโควิด-19 ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงอาจรักษาที่บ้านได้ โดยเน้นการพักผ่อน ดื่มน้ำให้เพียงพอ ทานยาลดไข้ ยาแก้ไอ ยาแก้คัดจมูก ยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอาจต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

การป้องกันโรคภูมิแพ้

  • หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เช่น สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีสารก่อภูมิแพ้ ทำความสะอาดบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ
  • ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี
  • ล้างมือบ่อยๆ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย

การป้องกันโรคไข้หวัด

  • ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดทุกปี
  • ล้างมือบ่อยๆ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย

การป้องกันโรคโควิด-19

  • สวมหน้ากากอนามัย
  • ล้างมือบ่อยๆ
  • เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
  • ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

หากมีอาการคล้ายไข้หวัดหรือโควิด-19 ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง

Articles You Might Like

Share This Article

Get Your Weekly Sport Dose

Subscribe to TheWhistle and recieve notifications on new sports posts