ห้องน้ำเป็นสถานที่ที่มีความชื้นสูง ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นช้าลงและความดันโลหิตลดลงตามมา ภาวะนี้เรียกว่า ภาวะหัวใจเต้นช้า-ความดันโลหิตต่ำ (bradycardia-hypotension syndrome) ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่มักพบในผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองอยู่แล้ว
ภาวะหัวใจเต้นช้า-ความดันโลหิตต่ำ เกิดขึ้นได้จากการตอบสนองของร่างกายต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ร่างกายจะพยายามรักษาอุณหภูมิภายในร่างกายให้คงที่ โดยลดการไหลเวียนเลือดไปยังผิวหนังและบริเวณปลายมือปลายเท้า ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นช้าและความดันโลหิตลดลงตามมา
ภาวะหัวใจเต้นช้า-ความดันโลหิตต่ำ อาจเป็นอันตรายได้ เนื่องจากอาจทำให้สมองขาดเลือดและเกิดความเสียหายต่อเซลล์สมองได้ อาการของภาวะหัวใจเต้นช้า-ความดันโลหิตต่ำ ได้แก่
- เวียนศีรษะ
- หน้ามืด
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ใจสั่น
- หายใจลำบาก
- หมดสติ
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบออกจากห้องน้ำและไปอยู่ในที่ที่มีอากาศอบอุ่น ดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำเกลือแร่ เพื่อเพิ่มความดันโลหิต และหากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์
นอกจากนี้ ห้องน้ำยังเป็นสถานที่ที่มีพื้นลื่น เสี่ยงต่อการหกล้มและบาดเจ็บ ซึ่งอาจทำให้เส้นเลือดสมองเกิดการอุดตันหรือแตกได้ อาการของการหกล้มและบาดเจ็บที่อาจนำไปสู่อัมพาต ได้แก่
- ศีรษะกระแทกพื้น
- กระดูกสันหลังหัก
- กระดูกสะโพกหัก
เพื่อป้องกันการหกล้มและบาดเจ็บในห้องน้ำ ควรปฏิบัติดังนี้
- สวมรองเท้าที่เหมาะสม ไม่สวมรองเท้าแตะหรือรองเท้าส้นสูง
- เช็ดพื้นห้องน้ำให้แห้งทุกครั้งหลังใช้งาน
- ติดราวจับในห้องน้ำเพื่อความปลอดภัย
- วางอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่เกะกะทางเดิน
หากมีอาการอัมพาต ควรรีบไปพบแพทย์ทันที การรักษาอัมพาตขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยอาจรวมถึงการให้ยา การผ่าตัด หรือการทำกายภาพบำบัด