Samsung Galaxy S23 FE และ Samsung Galaxy S23 ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน ?

Samsung Galaxy S23 FE และ Samsung Galaxy S23 ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน 01

Samsung Galaxy S23 FE และ Samsung Galaxy S23 ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน 02

วัสดุ

Samsung Galaxy S23 FE ใช้วัสดุกระจกหน้า/หลัง กรอบอะลูมิเนียม ส่วน Samsung Galaxy S23 ใช้วัสดุกระจกหน้า/หลัง กรอบไทเทเนียม วัสดุไทเทเนียมมีความแข็งแรงและทนทานกว่าอะลูมิเนียม ทำให้ตัวเครื่องของ Samsung Galaxy S23 ทนทานต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดีกว่า

หน้าจอ

Samsung Galaxy S23 FE และ Samsung Galaxy S23 มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับอัตราการรีเฟรช 120Hz ทั้งคู่ หน้าจอของทั้งสองรุ่นมีความคมชัดและลื่นไหล แต่หน้าจอของ Samsung Galaxy S23 มีอัตราการรีเฟรชสูงสุดถึง 144Hz ทำให้การเลื่อนดูเนื้อหาหรือเล่นเกมมีความลื่นไหลมากขึ้น

ชิปเซ็ต

Samsung Galaxy S23 FE และ Samsung Galaxy S23 ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ทั้งคู่ ชิปเซ็ตตัวนี้มีประสิทธิภาพที่แรงที่สุดของ Qualcomm ในปัจจุบัน ทำให้ทั้งสองรุ่นสามารถเล่นเกม ใช้งานแอปพลิเคชันหนักๆ หรือทำงานกราฟิกระดับสูงได้อย่างลื่นไหล

RAM และ ROM

Samsung Galaxy S23 FE มี RAM ให้เลือก 6GB และ 8GB ส่วน Samsung Galaxy S23 มี RAM ให้เลือก 8GB และ 12GB ยิ่ง RAM เยอะก็ยิ่งสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้โดยไม่กระตุก ในส่วนของ ROM นั้น Samsung Galaxy S23 FE มีให้เลือก 128GB และ 256GB ส่วน Samsung Galaxy S23 มีให้เลือก 128GB, 256GB และ 512GB

ระบบกล้อง

Samsung Galaxy S23 FE และ Samsung Galaxy S23 มีระบบกล้องหลัง 3 ตัว เลนส์หลัก 50MP เลนส์อัลตร้าไวด์ 12MP และเลนส์เทเลโฟโต้ 10MP ทั้งคู่ กล้องทั้งสองรุ่นสามารถถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างสวยงาม แต่กล้องของ Samsung Galaxy S23 มีเซ็นเซอร์กล้องหลักที่ใหญ่กว่า ทำให้สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีกว่า

กล้องหน้า

Samsung Galaxy S23 FE และ Samsung Galaxy S23 มีกล้องหน้า 32MP ทั้งคู่ กล้องทั้งสองรุ่นสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้อย่างคมชัด

แบตเตอรี่

Samsung Galaxy S23 FE มีแบตเตอรี่ขนาด 4370mAh ส่วน Samsung Galaxy S23 มีแบตเตอรี่ขนาดเท่ากัน แบตเตอรี่ทั้งสองรุ่นสามารถใช้งานทั่วไปได้ตลอดวัน แต่แบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy S23 อึดกว่าเล็กน้อย

การชาร์จ

Samsung Galaxy S23 FE และ Samsung Galaxy S23 รองรับการชาร์จเร็ว 25W ทั้งคู่

ราคา

Samsung Galaxy S23 FE มีราคาเริ่มต้นที่ 26,990 บาท ส่วน Samsung Galaxy S23 มีราคาเริ่มต้นที่ 31,990 บาท

สรุป

Samsung Galaxy S23 FE และ Samsung Galaxy S23 มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันดังนี้

Samsung Galaxy S23 FE

  • จุดเด่น: ราคาย่อมเยา วัสดุแข็งแรง หน้าจอคมชัด กล้องถ่ายภาพดี
  • จุดด้อย: แบตเตอรี่เล็ก ชาร์จเร็วไม่แรงเท่า

Samsung Galaxy S23

  • จุดเด่น: วัสดุพรีเมียม หน้าจอคมชัด กล้องถ่ายภาพดี แบตเตอรี่อึด ชาร์จเร็วแรง
  • จุดด้อย: ราคาแพงกว่า

ซื้ออะไรคุ้มกว่ากัน

หากต้องการสมาร์ทโฟนเรือธงที่คุ้มค่าคุ้มราคา Samsung Galaxy S23 FE เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีราคาย่อมเยากว่า แต่ยังคงมีสเปคและฟีเจอร์ที่ครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือใหม่ใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม

หากต้องการสมาร์ทโฟนเรือธงที่มีวัสดุพรีเมียมและประสิทธิภาพที่แรงที่สุด Samsung Galaxy S23 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า มีวัสดุที่ทนทานกว่า หน้าจอที่คมชัดกว่า กล้องถ่ายภาพที่ดีกว่า และแบตเตอรี่ที่อึดกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้งานได้ยาวนาน

คำแนะนำ

หากต้องการประหยัดเงินและเน้นการใช้งานทั่วไป Samsung Galaxy S23 FE เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าต้องการสมาร์ทโฟนเรือธงที่มีวัสดุพรีเมียมและประสิทธิภาพที่แรงที่สุด Samsung Galaxy S23 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคล หากยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อรุ่นไหนดี สามารถเปรียบเทียบสเปคและคุณสมบัติของทั้งสองรุ่นอีกครั้ง หรือลองไปสัมผัสตัวเครื่องจริงที่ร้านค้าเพื่อประกอบการตัดสินใจ

Articles You Might Like

Share This Article

Get Your Weekly Sport Dose

Subscribe to TheWhistle and recieve notifications on new sports posts