ไม้กอล์ฟมีทั้งหมด 14 ไม้ แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ คือ
- ไม้กอล์ฟระยะไกล (Woods) ประกอบด้วย
- หัวไม้หนึ่ง (Driver) เป็นไม้ที่มีความยาวมากที่สุด ใช้ในการตีลูกจากแท่นที เพื่อออกตัวไปยังแฟร์เวย์
- หัวไม้แฟร์เวย์ (Fairway Wood) ใช้ในการตีลูกจากแฟร์เวย์ เพื่อไปยังกรีน
- หัวไม้ไฮบริด (Hybrid) มีลักษณะคล้ายไม้แฟร์เวย์ แต่มีขนาดเล็กกว่า ใช้ในการตีลูกจากแฟร์เวย์หรือรัฟ
- ไม้กอล์ฟระยะกลาง (Irons) ประกอบด้วย
- เหล็ก 3-9 เป็นไม้ที่มีความยาวสั้นลงเรื่อยๆ จากเหล็ก 3 ไปจนถึงเหล็ก 9 ใช้ในการตีลูกจากแฟร์เวย์หรือรัฟ เพื่อไปยังกรีน
- เหล็ก PW (Pitching Wedge) เป็นไม้ที่มีองศาหน้าไม้สูง ใช้ในการตีลูกเพื่อทำระยะสั้นๆ จากแฟร์เวย์หรือรัฟ เพื่อไปยังกรีน
- SW (Sand Wedge) เป็นไม้ที่มีองศาหน้าไม้สูงกว่า PW ใช้ในการตีลูกจากทราย เพื่อให้ลูกลอยขึ้นจากทราย
- LW (Lob Wedge) เป็นไม้ที่มีองศาหน้าไม้สูงสุด ใช้ในการตีลูกเพื่อทำระยะสั้นๆ จากกรีน เพื่อลอยขึ้นและหยุดลูกบนกรีน
- ไม้กอล์ฟระยะใกล้ (Wedges)
- พัตเตอร์ (Putter) เป็นไม้ที่ใช้ตีลูกเพื่อทำระยะใกล้ๆ บนกรีน
- อุปกรณ์อื่นๆ
- ถุงมือกอล์ฟ สวมใส่เพื่อป้องกันมือจากการเสียดสีกับไม้กอล์ฟ
- ลูกกอล์ฟ มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและสไตล์การเล่น
- ทีกอล์ฟ ใช้วางลูกกอล์ฟก่อนการตี
- ลูกกลิ้งหญ้า ใช้กลิ้งหญ้าบนกรีนเพื่อให้ลูกกอล์ฟกลิ้งได้ดีขึ้น
- เครื่องวัดระยะทาง ใช้วัดระยะทางจากลูกกอล์ฟไปยังเป้าหมาย
- เครื่องคำนวณกอล์ฟ ใช้คำนวณแต้มกอล์ฟ
การเลือกไม้กอล์ฟควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- ประเภทของไม้กอล์ฟ ไม้กอล์ฟแต่ละประเภทมีจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน ควรเลือกไม้กอล์ฟให้เหมาะสมกับระยะที่ต้องการตี
- ขนาดของไม้กอล์ฟ ไม้กอล์ฟมีให้เลือกหลายขนาด ควรเลือกไม้กอล์ฟให้เหมาะสมกับส่วนสูงและความยาวแขนของผู้เล่น
- น้ำหนักของไม้กอล์ฟ ไม้กอล์ฟมีให้เลือกหลายน้ำหนัก ควรเลือกไม้กอล์ฟให้เหมาะสมกับกำลังแขนของผู้เล่น
- วัสดุของไม้กอล์ฟ ไม้กอล์ฟทำจากวัสดุหลายชนิด ควรเลือกไม้กอล์ฟที่ทำจากวัสดุที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของผู้เล่น
หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกไม้กอล์ฟที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของตนเองได้