ฟักทองเป็นผักที่มีสีเหลืองทอง อุดมไปด้วยสารอาหารและประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้
1. บำรุงสายตา
ฟักทองมีวิตามินเอสูง ซึ่งจำเป็นต่อการมองเห็น ช่วยให้ดวงตาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันโรคตาบอดกลางคืน และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม
วิตามินเอในฟักทองจะถูกเปลี่ยนเป็นเรตินอลในร่างกาย ซึ่งเรตินอลเป็นสารที่จำเป็นสำหรับการมองเห็นในที่มืด หากร่างกายขาดวิตามินเอ อาจทำให้เกิดโรคตาบอดกลางคืนได้
นอกจากนี้ วิตามินเอยังช่วยปกป้องเซลล์ประสาทตาจากการถูกทำลาย จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของเซลล์ประสาทตา ส่งผลให้สูญเสียการมองเห็น
2. ต้านอนุมูลอิสระ
ฟักทองมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายของอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง
อนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียร ซึ่งสามารถทำลายเซลล์ในร่างกายได้ สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ
เบต้าแคโรทีนในฟักทองจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย ซึ่งวิตามินเอเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ
วิตามินซีและวิตามินอีในฟักทองก็เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน
3. บำรุงผิวพรรณ
ฟักทองมีวิตามินเอและวิตามินซี ซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และกระจ่างใส
วิตามินเอช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่จำเป็นต่อความยืดหยุ่นของผิว
วิตามินซีช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี
4. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ฟักทองมีวิตามินซี ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายของอนุมูลอิสระ ช่วยให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรค
5. ควบคุมน้ำหนัก
ฟักทองเป็นผักที่มีแคลอรีต่ำ ไขมันต่ำ และน้ำตาลต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักหรือต้องการลดน้ำหนัก
ฟักทอง 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 26 กิโลแคลอรี ไขมัน 0.1 กรัม และน้ำตาล 4 กรัม
ฟักทองมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยทำให้อิ่มนาน ช่วยลดความอยากอาหาร และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
6. ป้องกันโรคเบาหวาน
ฟักทองมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
เส้นใยอาหารจะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
7. ป้องกันโรคหัวใจ
ฟักทองมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจ
สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายของอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคหัวใจ
สารฟลาโวนอยด์จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
8. ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง
ฟักทองมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลาย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด
สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายของอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็ง
9. บำรุงกระดูกและฟัน
ฟักทองมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและบำรุงกระดูกและฟัน
แคลเซียมเป็นองค์ประกอบหลักของกระดูกและฟัน ฟอสฟอรัสจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
10. ดีต่อระบบขับถ่าย
ฟักทองมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก
เส้นใยอาหารจะช่วยดูดซับน้ำในลำไส้ จึงช่วยให้อุจจาระนิ่มและขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
สรุปได้ว่า ฟักทองเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยสารอาหารและประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย จึงควรรับประทานฟักทองเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดี