ไฟล์ HEIC นั้นใช้การเข้ารหัสแบบ HEVC ซึ่งแตกต่างจากการเข้ารหัสแบบ JPEG ที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน HEVC นั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าในการบีบอัดข้อมูลภาพ โดยสามารถบีบอัดข้อมูลภาพได้มากกว่า JPEG ถึง 2 เท่า ในขณะที่ยังคงคุณภาพภาพใกล้เคียงกัน
ตัวอย่างเช่น ไฟล์ภาพ JPEG ขนาด 1 เมกะไบต์ สามารถบีบอัดให้เหลือ 500 กิโลไบต์ได้โดยใช้การเข้ารหัสแบบ HEVC ซึ่งเท่ากับว่าไฟล์ภาพ HEIC จะมีขนาดเพียงครึ่งเดียวของไฟล์ JPEG เท่านั้น
นอกจากนี้ ไฟล์ HEIC ยังรองรับภาพ HDR และภาพแบบหลายเฟรม ซึ่งไฟล์ภาพรูปแบบอื่นๆ ไม่รองรับ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพที่มีช่วงไดนามิกกว้างขึ้นและมีความคมชัดสูงได้
ภาพ HDR คือภาพที่มีช่วงไดนามิกกว้าง หมายความว่าภาพสามารถแสดงรายละเอียดทั้งบริเวณที่สว่างและบริเวณที่มืดได้อย่างสมจริง ไฟล์ HEIC สามารถรองรับภาพ HDR ได้สูงสุด 10 บิต ซึ่งหมายความว่าภาพ HDR จะสามารถแสดงรายละเอียดได้มากกว่าภาพ HDR ที่ใช้ไฟล์ภาพรูปแบบอื่นๆ
ภาพแบบหลายเฟรม คือภาพที่สร้างจากหลายเฟรมภาพ ซึ่งช่วยให้สามารถถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น ไฟล์ HEIC สามารถรองรับภาพแบบหลายเฟรมได้สูงสุด 10 เฟรมต่อวินาที
Apple เลือกใช้ไฟล์ HEIC ใน iPhone เพราะไฟล์ HEIC มีข้อดีหลายประการ ดังนี้
- ช่วยให้ประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน iPhone ได้มากขึ้น
- รองรับภาพ HDR และภาพแบบหลายเฟรม ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพที่มีคุณภาพสูงขึ้นได้
- เป็นมาตรฐานไฟล์ภาพที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรมาตรฐานสากล
Apple เปิดตัวไฟล์ HEIC ใน iPhone เป็นครั้งแรกใน iOS 11 ซึ่งเปิดตัวในปี 2017 ปัจจุบัน ไฟล์ HEIC เป็นรูปแบบไฟล์ภาพเริ่มต้นสำหรับอุปกรณ์ Apple ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Mac, และ Apple TV
อย่างไรก็ตาม ไฟล์ HEIC ยังไม่รองรับโดยอุปกรณ์ทั้งหมด เช่น คอมพิวเตอร์ Windows เวอร์ชันเก่าๆ ผู้ใช้จึงอาจต้องแปลงไฟล์ HEIC เป็นไฟล์ JPEG หรือรูปแบบไฟล์ภาพอื่นๆ ก่อนที่จะเปิดบนอุปกรณ์เหล่านั้น
ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับไฟล์ HEIC
- รูปแบบไฟล์: ไฟล์ HEIC มีนามสกุลไฟล์ .HEIC
- การเข้ารหัส: ไฟล์ HEIC ใช้การเข้ารหัสแบบ HEVC
- รองรับ: ไฟล์ HEIC รองรับโดยอุปกรณ์ Apple ทุกรุ่น รวมถึงอุปกรณ์ Android บางรุ่น และโปรแกรมดูภาพบางโปรแกรม
หากต้องการแปลงไฟล์ HEIC เป็นไฟล์ JPEG หรือรูปแบบไฟล์ภาพอื่นๆ สามารถทำได้โดยใช้โปรแกรมดูภาพหรือโปรแกรมแปลงไฟล์ต่างๆ
