หุ้นกำไรดี ไตรมาสนี้ มีอะไรบ้าง?

หุ้นกำไรดี ไตรมาสนี้ มีอะไรบ้าง 01

จากการประกาศงบการเงินไตรมาสที่ 3/2566 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) พบว่ามีหุ้นหลายตัวที่มีกำไรเติบโตโดดเด่น โดยหุ้นที่น่าสนใจ

AOT

AOT เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับท่าอากาศยานและการให้บริการภาคพื้นดินที่ท่าอากาศยานหลักของประเทศไทย โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากค่าธรรมเนียมการขึ้นลงของเครื่องบิน ค่าบริการภาคพื้นดิน และค่าเช่าพื้นที่

ในไตรมาสที่ 3/2566 AOT มีกำไรสุทธิ 10,200 ล้านบาท เติบโต 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรเติบโตมาจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีจำนวนผู้โดยสารรวม 46.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 106% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

PTTEP

PTTEP เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากการขายน้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป และก๊าซธรรมชาติ

ในไตรมาสที่ 3/2566 PTTEP มีกำไรสุทธิ 29,000 ล้านบาท เติบโต 58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรเติบโตมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

GULF

GULF เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากการขายไฟฟ้าให้กับภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน

ในไตรมาสที่ 3/2566 GULF มีกำไรสุทธิ 13,000 ล้านบาท เติบโต 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรเติบโตมาจากปริมาณการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีปริมาณการขายไฟฟ้ารวม 1,318 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

SCGP

SCGP เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากการขายบรรจุภัณฑ์ให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ

ในไตรมาสที่ 3/2566 SCGP มีกำไรสุทธิ 11,000 ล้านบาท เติบโต 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรเติบโตมาจากการเติบโตของรายได้จากการส่งออกบรรจุภัณฑ์ไปยังต่างประเทศ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้จากการส่งออกบรรจุภัณฑ์รวม 51,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ADVANC

ADVANC เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่

ในไตรมาสที่ 3/2566 ADVANC มีกำไรสุทธิ 7,000 ล้านบาท เติบโต 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักที่ทำให้กำไรเติบโตมาจากการเติบโตของรายได้ค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้ค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รวม 120,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปัจจัยพื้นฐานของกิจการ

ปัจจัยพื้นฐานของกิจการเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเลือกลงทุนในหุ้น โดยปัจจัยพื้นฐานของกิจการที่ควรพิจารณา ได้แก่

  • กำไรสุทธิ กำไรสุทธิเป็นตัวเลขที่แสดงถึงความสามารถในการทำกำไรของกิจการ
  • อัตราส่วนทางการเงิน อัตราส่วนทางการเงิน เช่น อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) และอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อสินทรัพย์ (Return on Assets Ratio) สามารถใช้ประเมินความสามารถในการทำกำไรและความเสี่ยงของกิจการ
  • แนวโน้มของอุตสาหกรรม แนวโน้มของอุตสาหกรรมที่กิจการดำเนินอยู่มีความสำคัญต่อความสามารถในการทำกำไรของกิจการ
  • ปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมือง ปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองมีผลกระทบต่อธุรกิจของกิจการ

แนวโน้มของอุตสาหกรรม

แนวโน้มของอุตสาหกรรมที่กิจการดำเนินอยู่มีความสำคัญต่อความสามารถในการทำกำไรของกิจการ โดยอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตย่อมมีโอกาสในการทำกำไรมากกว่าอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มชะลอตัวหรือถดถอย

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมือง

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองมีผลกระทบต่อธุรกิจของกิจการ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และนโยบายของรัฐบาล

การลงทุนในหุ้นควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบ

นอกจากปัจจัยพื้นฐานของกิจการ แนวโน้มของอุตสาหกรรม และปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองแล้ว การลงทุนในหุ้นควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบ เช่น

  • ราคาหุ้น ราคาหุ้นเป็นปัจจัยที่นักลงทุนทุกคนต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นราคาที่นักลงทุนจ่ายเพื่อซื้อหุ้น
  • สภาพคล่อง สภาพคล่องของหุ้นเป็นปัจจัยที่บ่งบอกถึงความสามารถในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
  • ความเสี่ยง การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยง นักลงทุนจึงควรพิจารณาความเสี่ยงของหุ้นที่สนใจก่อนตัดสินใจลงทุน

การลงทุนในหุ้นเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

Articles You Might Like

Share This Article

Get Your Weekly Sport Dose

Subscribe to TheWhistle and recieve notifications on new sports posts