ลงทุนในกองทุนรวม สำหรับมือใหม่

ลงทุนในกองทุนรวม สำหรับมือใหม่ 01

กองทุนรวม เปรียบเสมือนการรวมเงินจากนักลงทุนหลายคน เปรียบเสมือน “หม้อรวม” ขนาดใหญ่ มอบหมายให้ “ผู้จัดการกองทุน” มืออาชีพ นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ คล้ายกับการจ้างผู้เชี่ยวชาญมาดูแลเงินลงทุนแทนเรา

ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวม

  • เริ่มต้นง่าย: ลงทุนได้ด้วยเงินจำนวนน้อย เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่
  • มืออาชีพดูแล: ผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ คอยวิเคราะห์ ตัดสินใจ ลงทุน
  • กระจายความเสี่ยง: เงินลงทุนกระจายไปยังสินทรัพย์หลายประเภท
  • ตัวเลือกหลากหลาย: มีกองทุนให้เลือกมากมาย เหมาะกับทุกเป้าหมายและระดับความเสี่ยง

ก่อนตัดสินใจลงทุน

ลงทุนในกองทุนรวม สำหรับมือใหม่ 02
  • ศึกษาข้อมูล: ทำความรู้จักประเภทของกองทุน นโยบายการลงทุน ผลตอบแทน ความเสี่ยง
  • วัดระดับความเสี่ยง: ทำแบบทดสอบเพื่อค้นหาว่ารับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน
  • เปรียบเทียบกองทุน: เปรียบเทียบผลตอบแทน ความเสี่ยง ค่าธรรมเนียม
  • เลือกช่องทาง: เลือกซื้อกองทุนผ่านธนาคาร บลจ. หรือแอปพลิเคชัน

แหล่งข้อมูล

ตัวอย่างประเภทของกองทุนรวม

  • กองทุนตราสารหนี้: ลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ เหมาะกับผู้ต้องการความเสี่ยงต่ำ เน้นความมั่นคง

ตัวอย่าง:

  • กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น: ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุสั้น เน้นความมั่นคง ผลตอบแทนไม่สูง
  • กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาว: ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุยาว ผลตอบแทนสูงกว่า ความเสี่ยงสูงกว่า
  • กองทุนรวมผสม: ลงทุนทั้งตราสารหนี้และหุ้น เหมาะกับผู้ต้องการความเสี่ยงปานกลาง

ตัวอย่าง:

  • กองทุนรวมผสม 50/50: ลงทุนในตราสารหนี้ 50% หุ้น 50%
  • กองทุนรวมผสมเชิงรุก: ลงทุนในหุ้นมากกว่าตราสารหนี้ ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงสูง
  • กองทุนรวมตราสารทุน: ลงทุนในหุ้น เหมาะกับผู้ต้องการผลตอบแทนสูง ยอมรับความเสี่ยงสูง

ตัวอย่าง:

  • กองทุนรวมตราสารทุนไทย: ลงทุนในหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  • กองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ: ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ
  • กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์: ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เหมาะกับผู้ต้องการกระจายเงินลงทุน

ตัวอย่าง:

  • กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทย: ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทย
  • กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ: ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • ลงทุนระยะยาว: อดทน รอคอย ผลตอบแทนจะค่อยๆ เติบโต
  • กระจายเงินลงทุน: ลงทุนในกองทุนหลายประเภท ลดความเสี่ยง
  • ทบทวนผลการลงทุน: ติดตามผล ปรับพอร์ตการลงทุนตามเหมาะสม

ตัวอย่างการลงทุน

นักลงทุน: ต้องการเงินเก็บไว้ใช้ยามเกษียณอายุ อายุ 30 ปี เงินเดือน 30,000 บาท ต้องการเกษียณอายุ 60 ปี

เป้าหมาย:

  • มีเงินเก็บไว้ใช้หลังเกษียณ 20 ล้านบาท

แนวทางการลงทุน:

  • ลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ 60% เน้นความมั่นคง
  • ลงทุนในกองทุนรวมผสม 30% เน้นการเติบโต
  • ลงทุนในกองทุนรวมตราสารทุน 10% เน้นผลตอบแทนระยะยาว

วิธีการ:

  • หักเงินออม 10% ของเงินเดือน ลงทุนในกองทุนรวม
  • เพิ่มเงินลงทุนทุกปี ตามอัตราเงินเฟ้อ
  • ทบทวนผลการลงทุนทุกปี ปรับพอร์ตการลงทุนตามเหมาะสม

ตัวอย่างกองทุนรวม

  • กองทุนรวมตราสารหนี้: กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาว เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล
  • กองทุนรวมผสม: กองทุนรวมผสม 60/40 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ 60% หุ้น 40%
  • กองทุนรวมตราสารทุน: กองทุนรวมตราสารทุนไทย เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่

ผลลัพธ์:

  • หากนักลงทุนสามารถลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอ ผลตอบแทนเฉลี่ย 7% ต่อปี
  • นักลงทุนจะมีเงินเก็บไว้ใช้หลังเกษียณ 20.9 ล้านบาท

หมายเหตุ:

  • ตัวอย่างนี้เป็นเพียงการประมาณการ ผลตอบแทนจริงอาจสูงกว่าหรือต่ำกว่า ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด
  • นักลงทุนควรศึกษาข้อมูล เลือกกองทุนรวมให้เหมาะสมกับความเสี่ยง และเป้าหมายการลงทุน

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • นักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุนรวมได้จาก
  • นักลงทุนควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เพื่อรับคำแนะนำในการลงทุนที่เหมาะสม

ขอให้คุณประสบความสำเร็จในการลงทุน!

Articles You Might Like

Share This Article

Get Your Weekly Sport Dose

Subscribe to TheWhistle and recieve notifications on new sports posts