ปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวันนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ เพศ กิจกรรมที่ทำ สภาพอากาศ และสุขภาพโดยรวม
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใหญ่ควรดื่มน้ำประมาณ 1.5-2 ลิตรต่อวัน (ประมาณ 6-8 แก้ว) โดยผู้หญิงควรดื่มน้ำน้อยกว่าผู้ชายเล็กน้อย
สำหรับเด็กเล็ก ปริมาณน้ำที่ควรดื่มจะลดลงตามอายุ โดยเด็กอายุ 1-3 ปี ควรดื่มน้ำประมาณ 1 ลิตรต่อวัน (ประมาณ 4 แก้ว) เด็กอายุ 4-8 ปี ควรดื่มน้ำประมาณ 1.2 ลิตรต่อวัน (ประมาณ 5 แก้ว) และเด็กอายุ 9-13 ปี ควรดื่มน้ำประมาณ 1.5 ลิตรต่อวัน (ประมาณ 6 แก้ว)
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย อยู่ในอากาศร้อน หรือท้องเสีย
หากร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการขาดน้ำ ซึ่งอาจมีอาการต่างๆ เช่น ปากแห้ง คอแห้ง กระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง และอาจรุนแรงถึงขั้นหมดสติได้
ดังนั้น จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ
ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน:
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอตลอดทั้งวัน แทนที่จะดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือคาเฟอีน
- พกขวดน้ำติดตัวไปเสมอ เพื่อให้สามารถดื่มน้ำได้ตลอดเวลา
- ดื่มน้ำก่อนออกกำลังกายหรืออยู่ในอากาศร้อน
- ดื่มน้ำเพิ่มเติมหากมีอาการกระหายน้ำมาก
- สังเกตสัญญาณของอาการขาดน้ำ และดื่มน้ำเพิ่มเติมหากมีอาการดังกล่าว
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวัน ควรปรึกษาแพทย์