สาเหตุของโรคลายม์
โรคลายม์เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Borrelia burgdorferi ซึ่งสามารถพบได้ในเห็บ Ixodes sapphiroides เห็บเหล่านี้สามารถพบได้ในป่า พื้นที่รกร้าง และสวนสาธารณะ เห็บจะดูดเลือดจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด รวมทั้งมนุษย์ ในระหว่างที่ดูดเลือด เห็บจะปล่อยเชื้อเข้าสู่ร่างกายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ติดเชื้อสามารถแพร่เชื้อไปสู่เห็บตัวอื่นได้ เห็บที่ติดเชื้อจึงกลายเป็นพาหะนำโรค
อาการของโรคลายม์
อาการของโรคลายม์มักปรากฏขึ้นภายใน 30 วันหลังถูกเห็บกัด อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- ผื่นแดงบริเวณที่เห็บกัด มักมีลักษณะเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ (Erythema migrans) ผื่นมักเกิดขึ้นภายใน 3-30 วันหลังถูกเห็บกัด ผื่นมักมีเส้นขอบชัดเจน ยกนูนเล็กน้อย และอาจมีจุดแดงเล็กๆ ปรากฏอยู่ภายใน ผื่นอาจมีอาการคันหรือแสบได้
- ไข้
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ปวดศีรษะ
- อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่
หากไม่ได้รับการรักษา โรคลายม์อาจลุกลามไปยังระบบอื่นๆ ของร่างกาย เช่น ข้อต่อ หัวใจ และระบบประสาท อาการที่อาจพบได้เมื่อโรคลุกลาม ได้แก่
- ปวดข้อเรื้อรัง
- ปัญหาหัวใจ เช่น เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
- ปัญหาระบบประสาท เช่น อ่อนแรง ชา อัมพาต
การรักษาโรคลายม์
โรคลายม์สามารถรักษาให้หายขาดได้หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที การรักษามักใช้ยาปฏิชีวนะ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายดีภายใน 2-4 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางรายอาจต้องใช้เวลานานกว่าหรืออาจมีอาการเรื้อรัง
ยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาโรคลายม์ ได้แก่
- Doxycycline
- Amoxicillin
- Cefuroxime
การป้องกันโรคลายม์
วิธีป้องกันโรคลายม์ ได้แก่
- หลีกเลี่ยงการเดินป่าหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่ที่มีเห็บ
- หากต้องเดินป่าหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ให้สวมใส่เสื้อผ้าที่ปกคลุมร่างกายมิดชิด สวมรองเท้าบูท ถุงมือ และกางเกงขายาว
- ทายากันเห็บ
- ตรวจเช็คร่างกายเป็นประจำหากไปเดินป่าหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากพบเห็บกัด ให้รีบนำเห็บออกโดยเร็วที่สุด โดยใช้คีมหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อดึงเห็บออก ไม่ควรบีบหรือใช้สารเคมีกำจัดเห็บ เพราะอาจทำให้เห็บแตกและปล่อยเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้
การป้องกันเห็บกัด
นอกจากวิธีป้องกันโรคลายม์ที่กล่าวมาแล้ว ยังมีวิธีป้องกันเห็บกัดเพิ่มเติม ได้แก่
- กำจัดเห็บในบริเวณบ้านและสวน
- กำจัดแหล่งอาหารของเห็บ เช่น สัตว์ฟันแทะ
- ตรวจเช็คสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ หากพบเห็บกัด ให้รีบนำเห็บออกโดยเร็วที่สุด
การวินิจฉัยโรคลายม์
การวินิจฉัยโรคลายม์สามารถทำได้โดยการตรวจเลือดเพื่อหาแอนติบอดีต่อเชื้อ Borrelia burgdorferi อย่างไรก็ตาม การตรวจเลือดอาจให้ผลลบในช่วงแรกหลังติดเชื้อ การตรวจหาเชื้อโดยตรงจากเห็บหรือรอยโรคที่ผิวหนังอาจทำได้ แต่วิธีนี้ไม่สามารถทำได้โดยทั่วไป
การพยากรณ์โรคลายม์
โรคลายม์สามารถรักษาให้หายขาดได้หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเรื้อรัง เช่น ปวดข้อเรื้อรัง ปัญหาหัวใจ หรือปัญหาระบบประสาท
ข้อควรระวัง
หากมีอาการที่สงสัยว่าเป็นโรคลายม์ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง