การรักษาโรคมะเร็ง
ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39 สามารถเข้ารับการรักษาโรคมะเร็ง 20 ชนิด ที่ไม่สามารถรักษาตามแนวทางที่กำหนด (Protocol) และมีความจำเป็นที่ต้องให้การรักษาด้วยยารักษาโรคมะเร็ง และ/หรือเคมีบำบัด และ/หรือรังสีรักษา โดยสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น แต่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อรายต่อปี
ตัวอย่างค่ารักษาพยาบาลที่เบิกได้
- ค่ายารักษาโรคมะเร็ง
- ค่าเคมีบำบัด
- ค่ารังสีรักษา
- ค่าผ่าตัด
- ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล
- ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์
ขั้นตอนการเบิกค่ารักษาพยาบาล
ผู้ประกันตนสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ โดยต้องมีเอกสารหลักฐานดังนี้
- ใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษา
- ใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ประกันตน
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ประกันตน
การตรวจสุขภาพประจำปี
ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39 สามารถตรวจสุขภาพประจำปีฟรี ในสถานพยาบาลตามสิทธิที่ของผู้ประกันหรือสถานพยาบาลที่เข้าร่วมกับสำนักงานประกันสังคมที่ใดก็ได้ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน
ตัวอย่างการตรวจสุขภาพประจำปี
- ตรวจร่างกายทั่วไป
- ตรวจวัดความดันโลหิต
- ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด
- ตรวจวัดระดับไขมันในเลือด
- ตรวจปัสสาวะ
- ตรวจอุจจาระ
- ตรวจเอกซเรย์ปอด
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ข้อยกเว้น
สิทธิประโยชน์ในการคุ้มครองโรคมะเร็งตามสิทธิ ม.33 ม.39 มีข้อยกเว้นบางประการ ดังนี้
- โรคมะเร็งที่ตรวจพบก่อนการสมัครเป็นผู้ประกันตน
- โรคมะเร็งที่เกิดจากอุบัติเหตุ
- โรคมะเร็งที่เกิดจากการกระทำโดยเจตนา
- โรคมะเร็งที่เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคมะเร็ง 20 ชนิดที่คุ้มครองตามสิทธิประกันสังคม ได้แก่
- มะเร็งเต้านม
- มะเร็งปากมดลูก
- มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
- มะเร็งปอด
- มะเร็งตับ
- มะเร็งกระเพาะอาหาร
- มะเร็งรังไข่
- มะเร็งต่อมลูกหมาก
- มะเร็งตับอ่อน
- มะเร็งสมอง
- มะเร็งเม็ดเลือดขาว
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- มะเร็งต่อมไทรอยด์
- มะเร็งต่อมหมวกไต
- มะเร็งผิวหนัง
- มะเร็งต่อมลูกหมาก
- มะเร็งไขสันหลัง
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง Hodgkin
ผู้ประกันตนควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ในการคุ้มครองโรคมะเร็งตามสิทธิ ม.33 ม.39 เพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ของสำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่