เนื้อไก่ ดีต่อสุขภาพ โปรตีนสูง ไม่ใช่ต้นเหตุของโรคเกาต์

เนื้อไก่ โปรตีนสูง ดีต่อสุขภาพ ไม่ใช่ต้นเหตุของโรคเกาต์ 02

เนื้อไก่เป็นเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูงถึง 25-30% ไขมันต่ำ แคลอรี่ต่ำ ดีต่อสุขภาพ และไม่ใช่ต้นเหตุของโรคเกาต์

โรคเกาต์เกิดจากการที่ร่างกายมีกรดยูริกในเลือดสูงเกินไป กรดยูริกเป็นสารที่ร่างกายผลิตขึ้นเองจากการย่อยสลายของสารพิวรีน (purine) ซึ่งพบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ถั่ว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น

โรคเกาต์

โรคเกาต์เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสะสมของผลึกกรดยูริกที่ข้อต่อ กรดยูริกเป็นสารที่ร่างกายผลิตขึ้นเองจากการย่อยสลายของสารพิวรีน (purine) ซึ่งเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่พบได้ในอาหารหลายชนิด

ปริมาณกรดยูริกในเลือดที่ปกติจะอยู่ในช่วง 3.4-7.0 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หากระดับกรดยูริกในเลือดสูงเกินไป กรดยูริกจะตกตะกอนเป็นผลึกที่ข้อต่อ และทำให้เกิดอาการปวดข้ออย่างรุนแรง บวม แดง และร้อนบริเวณข้อที่มีอาการ

โรคเกาต์สามารถแบ่งออกเป็น 2 ระยะหลักๆ คือ

  • ระยะเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดข้ออย่างรุนแรง บวม แดง และร้อนบริเวณข้อที่มีอาการ อาการมักเกิดขึ้นที่ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ หรือข้อนิ้วมือ ระยะนี้มักกินเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
  • ระยะเรื้อรัง ผู้ป่วยจะมีอาการปวดข้อเป็นๆ หายๆ อาการอาจรุนแรงมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ระยะนี้มักกินเวลานานหลายปี

ความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อไก่กับโรคเกาต์

เนื้อไก่เป็นเนื้อสัตว์ที่มีปริมาณพิวรีนปานกลาง โดยเนื้ออกไก่มีปริมาณพิวรีนประมาณ 100 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม เนื้อน่องไก่มีปริมาณพิวรีนประมาณ 150 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม

การรับประทานเนื้อไก่อย่างพอดีไม่ได้ทำให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น ดังนั้นจึงไม่ใช่สาเหตุของโรคเกาต์ อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงมากเกินไปอาจทำให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรรับประทานเนื้อไก่อย่างพอดี โดยปริมาณที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ประมาณ 250-300 กรัมต่อวัน

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเกาต์ เช่น เพศชาย อายุมากกว่า 30 ปี ภาวะอ้วน โรคไต โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น

คำแนะนำในการรับประทานอาหารสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคเกาต์

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคเกาต์ ควรรับประทานเนื้อไก่อย่างพอดี โดยปริมาณที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ประมาณ 250-300 กรัมต่อวัน นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณพิวรีนสูง เช่น เครื่องในสัตว์ อาหารทะเลบางชนิด ถั่ว และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นอกจากการรับประทานอาหารแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจช่วยป้องกันการกำเริบของโรคเกาต์ เช่น การควบคุมน้ำหนัก การดื่มน้ำให้เพียงพอ การลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

คำแนะนำเพิ่มเติม

หากท่านมีความเสี่ยงในการเกิดโรคเกาต์ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อขอคำแนะนำในการรับประทานอาหารที่เหมาะสม

Articles You Might Like

Share This Article

Get Your Weekly Sport Dose

Subscribe to TheWhistle and recieve notifications on new sports posts