1. เลือกสี:
- เลือกเฉดสีที่เหมาะกับพื้นที่ ประเภทของผนัง และสไตล์ที่คุณต้องการ
- สีอ่อนช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น สีเข้มช่วยให้ห้องดูอบอุ่น
- ทดสอบสีบนพื้นที่เล็กก่อนทาจริง ช่วยให้เห็นภาพรวมของสีบนผนัง
2. คำนวณปริมาณสี:
- วัดพื้นที่ที่จะทาสี (ความสูง x ความยาว)
- คำนวณจำนวนแกลลอนสีที่ต้องใช้ โดยทั่วไป 1 แกลลอนทาได้ 30-40 ตารางเมตร
- เผื่อสีไว้สำหรับการทาซ้ำ ประมาณ 10% ของจำนวนสีที่คำนวณได้
3. เตรียมอุปกรณ์:
- แปรงทาสี: เลือกขนาดแปรงให้เหมาะกับงาน
- ลูกกลิ้ง: เหมาะสำหรับทาพื้นที่กว้าง
- ถาดรองสี: เทสีลงในถาดเพื่อสะดวกในการทา
- ผ้าขี้ริ้ว: เช็ดสีที่เลอะเทอะ
- เทปกาว: ปิดพื้นผิวที่ไม่ต้องการทาสี
- กระดาษทราย: ขัดพื้นผิวที่ไม่เรียบ
- อุปกรณ์ป้องกัน: ถุงมือ แว่นตา
4. เตรียมพื้นผิว:
- ทำความสะอาดผนังด้วยน้ำและสบู่ ขจัดคราบสกปรก ฝุ่นละออง
- ขัดพื้นผิวที่ไม่เรียบด้วยกระดาษทราย
- อุดโป๊วรอยร้าว รอยแตก รอให้พื้นผิวแห้งสนิท
การทาสี
1. ทาสีรองพื้น:
- ทาสีรองพื้น 1-2 รอบ ช่วยให้สีทับหน้ายึดเกาะกับพื้นผิวได้ดีขึ้น
- รอให้สีรองพื้นแห้งสนิทก่อนทาสีทับหน้า
2. ทาสีทับหน้า:
- ทาสีทับหน้า 2-3 รอบ รอให้แต่ละรอบแห้งสนิทก่อนทารอบถัดไป
- ทาสีจากเพดานลงสู่ผนัง ทาจากมุมห้อง outward
- ทาสีเป็นแนวขวาง รอให้แห้ง ทาแนวตั้ง
3. เก็บงาน:
- ลอกเทปกาว เช็ดสีที่เลอะเทอะ
- ทำความสะอาดอุปกรณ์ทาสี
เทคนิคเพิ่มเติม
- ผสมน้ำยาหน่วงการแห้ง ช่วยให้ทาสีได้ง่ายขึ้น
- ใช้ไดร์เป่าผมเป่าสี ช่วยให้สีแห้งเร็วขึ้น
- ทาสีในสภาพอากาศที่เหมาะสม อุณหภูมิไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป
ตัวอย่าง
- ทาสีรองพื้นปูนเก่าก่อนทาสีทับหน้า ช่วยให้สีทับหน้ายึดเกาะกับผนังได้ดีขึ้น
- ใช้แปรงทาสีมุม รอยต่อ ใช้ลูกกลิ้งทาผนัง ช่วยให้ทาสีได้รวดเร็วและเรียบเนียน
- ผสมน้ำยาหน่วงการแห้งกับสีทาหน้า ช่วยให้ทาสีได้ง่ายขึ้นและไม่เกิดรอย