การอดอาหารเช้าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ส่งผลเสียต่อร่างกายหลายประการ
โรคอ้วน
การอดอาหารเช้าอาจทำให้ร่างกายสะสมไขมันมากขึ้น เนื่องจากร่างกายจะพยายามเก็บสะสมพลังงานไว้ใช้ในยามที่อดอาหาร ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน การศึกษาพบว่า ผู้ที่อดอาหารเช้ามีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนมากกว่าผู้ที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำ
โรคหัวใจ
การอดอาหารเช้าอาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงขึ้น ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด การศึกษาพบว่า ผู้ที่อดอาหารเช้ามีระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงกว่าผู้ที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำ
โรคเบาหวาน
การอดอาหารเช้าอาจทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานประเภท 2 การศึกษาพบว่า ผู้ที่อดอาหารเช้ามีความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานประเภท 2 มากกว่าผู้ที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำ
โรคอัลไซเมอร์
การอดอาหารเช้าอาจทำให้สมองได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ การศึกษาพบว่า ผู้ที่อดอาหารเช้ามีความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์มากกว่าผู้ที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำ
นอกจากนี้ การอดอาหารเช้ายังส่งผลเสียต่ออารมณ์และพฤติกรรมอีกด้วย ผู้ที่อดอาหารเช้าอาจรู้สึกหงุดหงิด อารมณ์เสีย และอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้นได้
อาการทางอารมณ์
การอดอาหารเช้าอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของสมองและระบบประสาท ส่งผลให้เกิดอาการทางอารมณ์ เช่น หงุดหงิด อารมณ์เสีย ซึมเศร้า และความวิตกกังวล
พฤติกรรมก้าวร้าว
การศึกษาพบว่า ผู้ที่อดอาหารเช้ามีแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวมากกว่าผู้ที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำ การศึกษาหนึ่งพบว่า เด็กนักเรียนที่อดอาหารเช้ามีแนวโน้มที่จะทะเลาะวิวาทกับเพื่อนมากกว่าเด็กนักเรียนที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำ
ดังนั้น จึงควรรับประทานอาหารเช้าทุกวัน เพื่อให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ