ภูมิแพ้ คือ ภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ (allergen) มากเกินไป สารก่อภูมิแพ้เหล่านี้มักพบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ ขนสัตว์ อาหาร ยา และแมลง
สาเหตุ
- พันธุกรรม: มีโอกาสเป็นภูมิแพ้มากขึ้นหากมีญาติสายตรงเป็นภูมิแพ้
- ตัวอย่าง: พ่อแม่เป็นภูมิแพ้ ลูกมีโอกาสเป็นภูมิแพ้ 30-50%
- ระบบภูมิคุ้มกัน: ทำงานผิดปกติ ตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้มากเกินไป
- ปกติแล้วระบบภูมิคุ้มกันจะปกป้องร่างกายจากเชื้อโรค แต่ในผู้ป่วยภูมิแพ้ ระบบภูมิคุ้มกันจะตีความสารก่อภูมิแพ้ว่าเป็นอันตราย
- สิ่งแวดล้อม: การสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้
- มลพิษทางอากาศ ฝุ่นควัน ควันบุหรี่ ละอองเกสรดอกไม้ ขนสัตว์ อาหาร ยา
อาการ
- ระบบทางเดินหายใจ: คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม คันคอ ไอ หายใจลำบาก หอบเหนื่อย
- อาการเหล่านี้อาจคล้ายกับหวัด แต่หากเป็นภูมิแพ้อาการจะเรื้อรังและเป็นๆ หายๆ
- ระบบผิวหนัง: ผื่นคัน ลมพิษ บวม
- ผื่นคันมักเกิดขึ้นบริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้
- ระบบทางเดินอาหาร: อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง
- อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นหลังจากกินอาหารที่แพ้
- ระบบอื่นๆ: ตาแดง คันตา น้ำตาไหล
วิธีรักษา
- หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้: วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอาการภูมิแพ้
- สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ท่ามกลางมลพิษ
- ทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอเพื่อกำจัดไรฝุ่น
- เลี้ยงสัตว์ในกรงและทำความสะอาดกรงสัตว์เป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้
- ยา: ยาแก้แพ้ ยาพ่นจมูก ยาสเตียรอยด์ ยาต้านฮิสตามีน
- ยาแก้แพ้จะช่วยลดอาการคัน จาม น้ำมูกไหล
- ยาพ่นจมูกจะช่วยลดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล
- ยาสเตียรอยด์จะช่วยลดอาการอักเสบ
- ยาต้านฮิสตามีนจะช่วยลดอาการคัน น้ำมูกไหล ตาแดง
- การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด: ช่วยให้ร่างกายคุ้นเคยกับสารก่อภูมิแพ้
- แพทย์จะฉีดสารก่อภูมิแพ้ให้ผู้ป่วยทีละน้อยเป็นประจำ
- วิธีนี้ช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการภูมิแพ้น้อยลง
การดูแลตัวเอง
- ล้างมือบ่อยๆ: ป้องกันการติดเชื้อ
- ทำความสะอาดบ้าน: กำจัดไรฝุ่นและฝุ่นละออง
- สวมหน้ากากอนามัย: เมื่ออยู่ท่ามกลางมลพิษ
- พักผ่อนให้เพียงพอ: ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดี
หากสงสัยว่าตนเองเป็นภูมิแพ้ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้อง