การคำนวณขนาดห้อง
ในการเลือกขนาดแอร์กับห้อง เราต้องคำนวณขนาดห้องก่อน โดยวัดความยาว x ความกว้าง x ความสูง ของห้อง จะได้ปริมาตรของห้อง ตัวอย่างเช่น ห้องนอนขนาด 4 เมตร x 3 เมตร x 2.5 เมตร จะมีปริมาตรเท่ากับ 30 ลูกบาศก์เมตร
การเลือกขนาดบีทียู
ขนาดบีทียูจะบอกถึงความสามารถในการทำความเย็นของแอร์ ยิ่งบีทียูสูง ความสามารถในการทำความเย็นก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
ขนาดบีทียูที่เหมาะสมกับห้อง มีดังนี้
- ห้องขนาดเล็ก (ไม่เกิน 12 ตารางเมตร) : 9,000-12,000 BTU
- ห้องขนาดกลาง (12-20 ตารางเมตร) : 12,000-18,000 BTU
- ห้องขนาดใหญ่ (20-30 ตารางเมตร) : 18,000-24,000 BTU
- ห้องขนาดใหญ่พิเศษ (30-40 ตารางเมตร) : 24,000-30,000 BTU
อย่างไรก็ตาม การเลือกขนาดบีทียูควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบ เช่น
- ทิศทางลม : หากห้องอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ มักได้รับแดดแรง จึงควรเลือกแอร์ที่มีขนาดบีทียูสูงกว่าปกติ
- จำนวนคน : หากห้องมีคนอยู่เป็นจำนวนมาก จึงควรเลือกแอร์ที่มีขนาดบีทียูสูงกว่าปกติ
- เฟอร์นิเจอร์ : หากห้องมีเฟอร์นิเจอร์มาก อาจทำให้อากาศไหลเวียนได้ไม่ดี จึงควรเลือกแอร์ที่มีขนาดบีทียูสูงกว่าปกติ
- การใช้งาน : หากใช้แอร์เพื่อทำความเย็นและลดความชื้น จึงควรเลือกแอร์ที่มีระบบฟอกอากาศ
ปัจจัยอื่นๆ ในการเลือกแอร์
นอกจากขนาดห้องและบีทียูแล้ว ยังควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ในการเลือกแอร์ด้วย เช่น
- ประเภทแอร์ : แอร์มีให้เลือกหลายประเภท เช่น แอร์ติดผนัง แอร์ฝังฝ้า แอร์แขวนเพดาน เป็นต้น แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน
- ประสิทธิภาพการทำความเย็น : แอร์แต่ละรุ่นจะมีค่าประสิทธิภาพการทำความเย็นที่แตกต่างกัน เรียกว่า SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio) ยิ่ง SEER สูง ประสิทธิภาพการทำความเย็นก็จะดีขึ้น
- ระดับเสียง : แอร์แต่ละรุ่นจะมีระดับเสียงที่แตกต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ไม่รบกวนผู้อื่น
- ฟังก์ชันการใช้งาน : แอร์แต่ละรุ่นจะมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการ
โดยสรุปแล้ว การเลือกขนาดแอร์กับห้อง ควรพิจารณาจากขนาดห้องเป็นหลัก จากนั้นจึงพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบ เพื่อให้ได้แอร์ที่มีขนาดเหมาะสม และมีประสิทธิภาพในการทำความเย็น