วิธีการคำนวณปริมาณน้ำที่ต้องดื่มในแต่ละวันนั้น สามารถทำได้โดยใช้สูตรดังนี้
ปริมาณน้ำที่ต้องดื่ม (มิลลิลิตร) = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) x 30
ตัวอย่างเช่น บุคคลที่มีน้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม จะต้องดื่มน้ำ 2,100 มิลลิลิตรต่อวัน
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อปริมาณน้ำที่ต้องดื่มในแต่ละวัน ได้แก่
- สภาพอากาศ: อากาศร้อนทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น จึงต้องดื่มน้ำมากขึ้น
- ระดับกิจกรรม: การออกกำลังกายทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น จึงต้องดื่มน้ำมากขึ้น
- สุขภาพ: ภาวะสุขภาพบางประการ เช่น โรคไต อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น จึงต้องดื่มน้ำมากขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ใหญ่ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 2,000 มิลลิลิตรต่อวัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำที่ต้องดื่มของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ดังนั้น ควรสังเกตอาการของร่างกายและดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
อาการของร่างกายที่บ่งบอกว่าขาดน้ำ ได้แก่
- รู้สึกกระหายน้ำ
- ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม
- ปากแห้ง
- อ่อนเพลีย
- เวียนศีรษะ
- ปวดศีรษะ
หากมีอาการเหล่านี้ ควรดื่มน้ำให้มากขึ้นทันที
วิธีดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
- ดื่มน้ำให้บ่อยขึ้น ไม่ควรดื่มน้ำครั้งละมากๆ
- ดื่มน้ำเปล่าเป็นหลัก หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์
- พกน้ำติดตัวไปเสมอ เพื่อดื่มได้ตลอดเวลา
ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
- ดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหาร จะช่วยให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น
- ดื่มน้ำหลังออกกำลังกาย จะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
- ดื่มน้ำก่อนเข้านอน จะช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น
การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการเกิดโรค และช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย