วันพ่อ เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของไทย ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9
วันพ่อเป็นวันที่ลูกหลานชาวไทยทั่วประเทศต่างแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบิดาของตน โดยการมอบของขวัญ ดอกไม้ กราบเท้าขอพร และใช้เวลาร่วมกันอย่างอบอุ่น
- ประวัติวันพ่อ
วันพ่อในประเทศไทยเริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา เป็นผู้ริเริ่ม โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ได้เล็งเห็นว่าพ่อมีความสำคัญต่อครอบครัวและสังคมเป็นอย่างมาก จึงควรมีวันหนึ่งที่ลูกหลานได้แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อของตน
คุณหญิงเนื้อทิพย์ได้เลือกวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เป็นวันพ่อแห่งชาติ เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระเมตตา ทรงรักและเทิดทูนสถาบันครอบครัว ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีของความเป็นพ่อที่ดี
ในปี พ.ศ. 2523 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันพ่อแห่งชาติ
- สัญลักษณ์วันพ่อ
สัญลักษณ์วันพ่อ คือ ดอกพุทธรักษา ซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีชื่ออันมีมงคล หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง ร่มเย็นเป็นสุข และความกตัญญูกตเวที
- กิจกรรมวันพ่อ
กิจกรรมวันพ่อที่พบเห็นได้ทั่วไป ได้แก่
- มอบของขวัญ ดอกไม้ ให้แก่พ่อ
- กราบเท้าขอพรพ่อ
- ใช้เวลาร่วมกันอย่างอบอุ่น เช่น พาพ่อไปทานข้าว ไปเที่ยวด้วยกัน
- ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น ประดิษฐ์ของขวัญให้พ่อ
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความสำคัญของวันพ่อ เช่น การจัดนิทรรศการ การแสดง การประกวด เป็นต้น
- ความสำคัญของวันพ่อ
วันพ่อมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนไทยทุกคน เพราะเป็นโอกาสที่จะได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบิดาของตน ผู้ที่มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อลูกหลานทุกคน
พ่อเป็นผู้ที่เลี้ยงดูลูกมาตั้งแต่เล็ก คอยอบรมสั่งสอนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม พ่อยังเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองลูกให้ปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ พ่อจึงเป็นผู้มีพระคุณอย่างยิ่งต่อลูกทุกคน
การแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อจึงเป็นการแสดงออกถึงความสำนึกในพระคุณของพ่อ เป็นสิ่งที่ลูกทุกคนควรกระทำ