รถไฟฟ้าสามารถลุยน้ำได้ โดยทั่วไปแล้ว รถไฟฟ้าจะมีระดับการกันน้ำอยู่ที่ IP67 ซึ่งหมายความว่าสามารถป้องกันฝุ่นและน้ำได้ในระดับสูง ระดับ IP ของรถไฟฟ้าจะแสดงเป็นตัวเลขสองตัว โดยตัวเลขตัวแรกจะหมายถึงการป้องกันฝุ่น และตัวเลขตัวที่สองจะหมายถึงการป้องกันน้ำ ตัวเลขยิ่งสูง การป้องกันก็จะยิ่งดีขึ้น
สำหรับรถไฟฟ้าที่มีระดับ IP67 สามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 1 เมตร ภายในเวลา 30 นาที โดยที่ระบบไฟฟ้าภายในรถจะไม่เสียหาย อย่างไรก็ตาม รถไฟฟ้าก็อาจเกิดความเสียหายได้หากลุยน้ำลึกหรือนานเกินไป เนื่องจากน้ำอาจเข้าไปในระบบต่างๆ ภายในรถได้ เช่น เครื่องยนต์ แบตเตอรี่ และระบบขับเคลื่อน
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่รถไฟฟ้าควรระมัดระวังในการขับรถลุยน้ำ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ เช่น รถอาจเสียหลักลื่นไถล หรือเครื่องยนต์อาจดับได้
ข้อควรระวังในการขับรถไฟฟ้าลุยน้ำ
- หลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำลึกเกินไป
- ขับรถด้วยความเร็วต่ำ
- ระวังสิ่งกีดขวางบนถนน
- ตรวจเช็กสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับรถไฟฟ้าใต้ดินนั้น โดยทั่วไปแล้วจะมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพ โดยจะมีการติดตั้งระบบสูบน้ำออกและระบบป้องกันน้ำท่วมอื่นๆ เพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังภายในอุโมงค์รถไฟฟ้าได้
ระดับการกันน้ำของรถไฟฟ้า
ระดับการกันน้ำของรถไฟฟ้าจะแสดงเป็นตัวเลขสองตัว โดยตัวเลขตัวแรกจะหมายถึงการป้องกันฝุ่น และตัวเลขตัวที่สองจะหมายถึงการป้องกันน้ำ ตัวเลขยิ่งสูง การป้องกันก็จะยิ่งดีขึ้น
ตัวเลขตัวแรก
- 0 หมายถึงไม่ป้องกันฝุ่นละอองและน้ำ
- 1 หมายถึงป้องกันฝุ่นละอองขนาด 50 ไมครอนได้
- 2 หมายถึงป้องกันฝุ่นละอองขนาด 12.5 ไมครอนได้
- 3 ป้องกันฝุ่นละอองได้ทั้งหมด
ตัวเลขตัวที่สอง
- 0 หมายถึงไม่ป้องกันน้ำ
- 1 ป้องกันน้ำกระเด็นได้
- 2 ป้องกันน้ำกระเด็นได้เมื่อยกรถขึ้น 15 องศา
- 3 ป้องกันน้ำกระเด็นได้เมื่อยกรถขึ้น 60 องศา
- 4 ป้องกันน้ำกระเด็นได้เมื่อยกรถขึ้น 90 องศา
- 5 ป้องกันน้ำกระเด็นได้ในทุกทิศทาง
- 6 ป้องกันน้ำที่ไหลเข้าได้
- 7 ป้องกันน้ำที่ไหลเข้าได้ภายใต้ความดัน
- 8 ป้องกันน้ำที่ไหลเข้าได้ภายใต้ความดันและแรงดันน้ำ
ตัวอย่างระดับการกันน้ำของรถไฟฟ้า
- Tesla Model 3 มีระดับการกันน้ำอยู่ที่ IP67 ซึ่งหมายความว่าสามารถป้องกันฝุ่นและน้ำได้ในระดับสูง สามารถป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้เข้าไปในตัวรถ และสามารถป้องกันน้ำไม่ให้เข้าไปในตัวรถได้ในระดับหนึ่ง โดยสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 1 เมตร ภายในเวลา 30 นาที
- Mercedes-Benz EQS มีระดับการกันน้ำอยู่ที่ IP68 ซึ่งหมายความว่าสามารถป้องกันฝุ่นและน้ำได้ในระดับสูงสุด สามารถป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้เข้าไปในตัวรถ และสามารถป้องกันน้ำไม่ให้เข้าไปในตัวรถได้ในทุกทิศทาง โดยสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 1.5 เมตร ภายในเวลา 30 นาที
ข้อควรระวังในการขับรถไฟฟ้าลุยน้ำ
- หลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำลึกเกินไป รถไฟฟ้าที่มีระดับ IP67 สามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 1 เมตร ภายในเวลา 30 นาที หากลุยน้ำลึกกว่านี้ อาจทำให้น้ำเข้าไปในระบบต่างๆ ภายในรถได้ เช่น เครื่องยนต์ แบตเตอรี่ และระบบขับเคลื่อน
ตัวอย่าง: หากคุณขับรถไฟฟ้าลุยน้ำลึกเกิน 1 เมตร น้ำอาจเข้าไปในเครื่องยนต์และทำให้เครื่องยนต์ดับได้
- ขับรถด้วยความเร็วต่ำ การขับรถด้วยความเร็วต่ำจะช่วยให้ควบคุมรถได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
ตัวอย่าง: หากคุณขับรถด้วยความเร็วสูงขณะลุยน้ำ รถอาจเสียหลักลื่นไถลและเกิดอุบัติเหตุได้
- ระวังสิ่งกีดขวางบนถนน สิ่งกีดขวางบนถนน เช่น ท่อระบายน้ำหรือเศษขยะ อาจทำให้รถเสียหลักลื่นไถลได้
ตัวอย่าง: หากคุณขับรถลุยน้ำและเจอท่อระบายน้ำ ท่อระบายน้ำอาจทำให้รถเสียหลักลื่นไถลได้
- ตรวจเช็กสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ ควรตรวจเช็กสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบว่ารถอยู่ในสภาพที่พร้อมลุยน้ำหรือไม่
ตัวอย่าง: หากคุณตรวจเช็กสภาพรถและพบว่ารถมีรอยรั่ว ควรรีบซ่อมแซมก่อนขับรถลุยน้ำ
กรณีรถไฟฟ้าเสียหายจากการลุยน้ำ
- หากรถไฟฟ้าเสียหายจากการลุยน้ำ ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบและซ่อมแซมทันที ไม่ควรขับขี่รถต่อไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้นได้
ตัวอย่าง: หากคุณขับรถไฟฟ้าลุยน้ำและเครื่องยนต์ดับ ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบและซ่อมแซมทันที ไม่ควรขับขี่รถต่อไป เนื่องจากอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายมากขึ้นได้
สรุป
รถไฟฟ้าสามารถลุยน้ำได้ แต่ควรปฏิบัติตามข้อควรระวังในการขับรถไฟฟ้าลุยน้ำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร