สาเหตุ
สาเหตุหลักของอาการปวดคอบ่าไหล่ เกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ มากเกินไปหรือนานเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการอักเสบและปวดตึง สาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการปวดคอบ่าไหล่ ได้แก่
- การนั่งทำงานท่าเดิมนานๆ หรือนั่งไม่ถูกวิธี
- การใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสม เช่น เก้าอี้ที่ไม่ดี หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ปรับระดับไม่ได้ เป็นต้น
- การทำงานหนักหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
- โรคประจำตัว เช่น โรคข้ออักเสบ โรคกระดูกสันหลังเสื่อม เป็นต้น
อาการ
อาการปวดคอบ่าไหล่ มักมีอาการปวดตึงบริเวณคอ บ่า ไหล่ บางครั้งอาจมีอาการปวดร้าวลงแขนหรือมือร่วมด้วย อาการมักเป็นมากขึ้นเมื่อใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ หรือเมื่อยกของหนัก บางคนอาจมีอาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว หรือนอนไม่หลับร่วมด้วย
วิธีป้องกัน
วิธีป้องกันอาการปวดคอบ่าไหล่ สามารถทำได้ดังนี้
- ปรับท่านั่งทำงานให้เหมาะสม โดยให้หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับสายตา วางแป้นพิมพ์ให้ระดับข้อศอกทำมุม 90 องศา และเข่าทำมุม 90 องศาเช่นกัน
- ลุกเดินหรือขยับร่างกายทุกๆ 20-30 นาที เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
- ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่
- พักผ่อนให้เพียงพอ
วิธีรักษา
หากมีอาการปวดคอบ่าไหล่ ควรรีบปรับเปลี่ยนท่านั่งทำงานและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
การรักษา
การรักษาอาการปวดคอบ่าไหล่ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ แพทย์อาจแนะนำการรักษาดังนี้
- การใช้ยา เช่น ยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ
- การกายภาพบำบัด
- การฉีดยา
- การผ่าตัด
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
นอกจากการรักษาแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันอาการปวดคอบ่าไหล่ซ้ำอีก สามารถทำได้ดังนี้
- ปรับท่านั่งทำงานให้เหมาะสม
- ลุกเดินหรือขยับร่างกายทุกๆ 20-30 นาที
- ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่
- พักผ่อนให้เพียงพอ
สำหรับมนุษย์วัยทำงานที่พบว่าตัวเองมีอาการปวดคอบ่าไหล่ ควรรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดที่อาจรุนแรงขึ้นและส่งผลกระทบต่อการทำงานและคุณภาพชีวิตได้
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง
ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง จะช่วยให้ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดคอบ่าไหล่ได้ โดยควรปรับท่านั่งให้เหมาะสมดังนี้
- ปรับหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา
- วางแป้นพิมพ์ให้ระดับข้อศอกทำมุม 90 องศา
- วางเมาส์ให้ระดับข้อมือทำมุมตรง
- วางเท้าให้ราบกับพื้น
- ปรับเก้าอี้ให้หลังพิงได้แนบสนิท
- ปรับระดับที่วางแขนให้อยู่ระดับเดียวกับโต๊ะทำงาน
- นั่งหลังตรง ไม่ควรนั่งก้มหรืองอตัว
- ไม่ควรนั่งไขว่ห้างหรือนั่งขัดสมาธิ
- ลุกเดินหรือขยับร่างกายทุกๆ 20-30 นาที
นอกจากท่านั่งที่ถูกต้องแล้ว ควรหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ ให้อยู่ในสภาพดีและสามารถปรับระดับได้เหมาะสมกับการใช้งานด้วย