บำรุงหัวใจ
มะเขือเทศมีสารไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระ สารอนุมูลอิสระเป็นสารที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญของร่างกายและจากสิ่งแวดล้อม สารอนุมูลอิสระเหล่านี้สามารถทำลายเซลล์ในร่างกายของเรา ซึ่งอาจนำไปสู่โรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง เป็นต้น
การศึกษาพบว่า การรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ โดยการศึกษาหนึ่งพบว่า การรับประทานมะเขือเทศสดหรือปรุงสุกอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ 25%
ป้องกันโรคมะเร็ง
มะเขือเทศมีสารไลโคปีน เบต้าแคโรทีน และวิตามินซี ซึ่งล้วนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระ
การศึกษาพบว่า การรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นต้น โดยการศึกษาหนึ่งพบว่า การรับประทานมะเขือเทศสดหรือปรุงสุกอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ 23%
บำรุงผิว
มะเขือเทศมีวิตามินซี วิตามินเอ และสารไลโคปีน ซึ่งล้วนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้ถูกทำลายจากแสงแดด ช่วยลดริ้วรอยและจุดด่างดำบนใบหน้า
นอกจากนี้ มะเขือเทศยังมีกรดซาลิไซลิก ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออก ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
ดีต่อกระดูก
มะเขือเทศมีวิตามินเอ วิตามินซี และธาตุเหล็ก ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อกระดูกและฟัน ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
วิตามินเอและวิตามินซีมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ธาตุเหล็กมีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงกระดูกและฟัน
ป้องกันโรคเบาหวาน
มะเขือเทศมีไฟเบอร์สูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน
ไฟเบอร์จะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงเกินไป
ช่วยย่อยอาหาร
มะเขือเทศมีไฟเบอร์สูง ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก
ไฟเบอร์จะช่วยทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มขึ้น ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
เสริมระบบภูมิคุ้มกัน
มะเขือเทศมีวิตามินซี ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
วิตามินซีมีส่วนช่วยในการต่อสู้กับเชื้อโรคและแบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกาย
เผาผลาญไขมัน
มะเขือเทศมีวิตามินซี วิตามินเอ และไฟเบอร์สูง ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่ช่วยเผาผลาญไขมัน
วิตามินซีและวิตามินเอมีส่วนช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ ไฟเบอร์จะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ทำให้รับประทานอาหารน้อยลง
อย่างไรก็ตาม มะเขือเทศมีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไตควรระมัดระวังการรับประทานมะเขือเทศมากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้ไตไม่สามารถกำจัดโพแทสเซียมส่วนเกินออกไปได้ ส่งผลให้หัวใจเต้นผิดปกติ และอาจทำให้หัวใจวายได้
วิธีรับประทานมะเขือเทศให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรรับประทานมะเขือเทศสดหรือปรุงสุกเล็กน้อย เนื่องจากมะเขือเทศสดจะมีวิตามินซีมากกว่ามะเขือเทศสุก และมะเขือเทศสุกจะมีไลโคปีนมากกว่ามะเขือเทศสด นอกจากนี้ มะเขือเทศยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำมะเขือเทศ ซอสมะเขือเทศ มะเขือเทศอบแห้ง เป็นต้น ซึ่งก็ยังคงมีคุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ต่อสุขภาพไม่แพ้กัน
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณนะครับ