1. ซักผ้าใหม่
หากผ้ามีกลิ่นอับมาก ควรซักผ้าใหม่อีกครั้ง โดยแยกผ้าออกจากกันตามประเภทของผ้าและระดับความสกปรก และใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าที่มีส่วนผสมของสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ในการซักผ้าใหม่ ควรทำตามขั้นตอนดังนี้
- แยกผ้าออกจากกันตามประเภทของผ้าและระดับความสกปรก โดยแยกผ้าขาว ผ้าสี ผ้าขนสัตว์ ผ้าไหม และผ้ายีนส์ออกจากกัน เพื่อไม่ให้สีตกหรือผ้าเสียหาย
- กลับด้านผ้าก่อนซัก เพื่อไม่ให้ผ้าเสียทรงและช่วยให้ผ้าสะอาดมากขึ้น
- เลือกผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าให้เหมาะสมกับประเภทของผ้าและระดับความสกปรก โดยผงซักฟอกแบบน้ำจะเหมาะกับผ้าเนื้อละเอียด เช่น ผ้าไหม ผ้าลินิน และผ้าใยสังเคราะห์ ส่วนผงซักฟอกแบบก้อนจะเหมาะกับผ้าเนื้อหยาบ เช่น ผ้ายีนส์ ผ้าฝ้าย และผ้าขนสัตว์
- ใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าในปริมาณที่พอเหมาะ โดยไม่ควรใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้ามากเกินไป เพราะอาจทำให้ผ้าแข็งกระด้างและเกิดฟองมากเกินไปจนทำให้เครื่องซักผ้าทำงานหนัก
- ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มลงในน้ำสุดท้ายของการซัก เพื่อช่วยให้ผ้านุ่มฟู
2. ตากผ้าให้แห้งสนิท
ควรตากผ้าในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หรือตากผ้ากลางแดดจัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไล่ความชื้นออกจากผ้า
ในการตากผ้า ควรทำตามขั้นตอนดังนี้
- ตากผ้าในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หรือตากผ้ากลางแดดจัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- หากตากผ้ากลางแดด ควรกลับด้านผ้าเพื่อไม่ให้ผ้าหดตัว
- ตากผ้าให้แห้งสนิทก่อนเก็บเข้าตู้เสื้อผ้า
3. ใช้น้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดา
หากผ้ามีกลิ่นอับเล็กน้อย สามารถใช้น้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดาช่วยกำจัดกลิ่นอับ โดยผสมน้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดากับน้ำในอัตราส่วน 1:1 นำไปแช่ผ้าประมาณ 30 นาที จากนั้นล้างน้ำให้สะอาด
ในการแช่ผ้าด้วยน้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดา ควรทำตามขั้นตอนดังนี้
- ผสมน้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดากับน้ำในอัตราส่วน 1:1
- นำผ้าลงไปแช่ในน้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดาประมาณ 30 นาที
- ล้างน้ำให้สะอาด
4. ใส่ผงซักฟอกกับน้ำยาปรับผ้านุ่ม
ใส่ผงซักฟอกกับน้ำยาปรับผ้านุ่มลงในน้ำสุดท้ายของการซัก เพื่อช่วยขจัดกลิ่นอับจากผ้าและช่วยให้ผ้านุ่มฟู
5. ใส่น้ำมันหอมระเหย
ใส่น้ำมันหอมระเหย 10-15 หยดลงในน้ำสุดท้ายของการซัก เพื่อช่วยเพิ่มความหอมให้กับผ้า
6. เก็บผ้าไว้ในที่แห้งและสะอาด
ควรเก็บผ้าไว้ในที่แห้งและสะอาด โดยหลีกเลี่ยงการเก็บผ้าไว้ในตู้เสื้อผ้าที่ชื้นหรือมีกลิ่นอับ
นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าและชั้นวางผ้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกำจัดความชื้นและแบคทีเรียที่อาจสะสมอยู่
โดยสรุปแล้ว วิธีกำจัดกลิ่นอับจากผ้าสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของกลิ่นอับ โดยใช้วิธีการที่เหมาะสมกับผ้าแต่ละชนิด