ผู้สูงอายุ ทานอาหารเผ็ดๆ มีประโยชน์หรือโทษมากกว่ากัน

ผู้สูงอายุ ทานอาหารเผ็ดๆ มีประโยชน์หรือโทษมากกว่ากัน 02

ปัญหาระบบย่อยอาหาร

พริกมีสารแคปไซซิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้อาหารมีรสเผ็ด โดยสารแคปไซซินจะไปกระตุ้นต่อมรับรสในช่องปากและลำคอ ทำให้รู้สึกแสบร้อนและอยากดื่มน้ำ สารแคปไซซินยังสามารถไปกระตุ้นการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูก ลำไส้อักเสบ เป็นต้น

ปัญหาระบบเผาผลาญ

การกินอาหารเผ็ดอาจทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากร่างกายต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อย่อยอาหาร อย่างไรก็ตาม การกินอาหารเผ็ดมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากอาหารเผ็ดมักมีไขมันและโซเดียมสูง

ปัญหาอื่นๆ

การกินอาหารเผ็ดอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร โรคกรดไหลย้อน โรคภูมิแพ้ เป็นต้น

คำแนะนำสำหรับผู้สูงวัยในการกินอาหารเผ็ด

ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารเผ็ดจัด หรือหากต้องการกินควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ และเลือกอาหารที่ปรุงด้วยพริกสดหรือพริกขี้หนูมากกว่าพริกป่น เนื่องจากพริกป่นมีสารแคปไซซินสูงกว่า ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

ตัวอย่างอาหารเผ็ดที่ผู้สูงอายุควรหลีกเลี่ยง ได้แก่

  • อาหารไทยรสจัด เช่น ต้มยำกุ้ง แกงเผ็ด แกงเขียวหวาน เป็นต้น
  • อาหารจีนรสจัด เช่น เป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ เป็นต้น
  • อาหารเกาหลีรสเผ็ด เช่น กิมจิ บิบิมบับ ซัมกยอบซัล เป็นต้น
  • อาหารญี่ปุ่นรสเผ็ด เช่น ราเม็ง อุด้ง เทมปุระ เป็นต้น

ตัวอย่างอาหารเผ็ดที่ผู้สูงอายุสามารถกินได้บ้าง เช่น

  • แกงจืด
  • ต้มยำน้ำใส
  • แกงเขียวหวานหมู
  • ยำผักบุ้ง
  • ลาบหมู
  • น้ำพริก
  • แกงเผ็ดเป็ดย่าง
  • แกงเผ็ดไก่

นอกจากนี้ ผู้สูงอายุควรใส่ใจในเรื่องสุขภาพอื่นๆ ด้วย เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การพักผ่อนให้เพียงพอ การดื่มน้ำให้เพียงพอ การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เป็นต้น เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ

Articles You Might Like

Share This Article

Get Your Weekly Sport Dose

Subscribe to TheWhistle and recieve notifications on new sports posts