ผลไม้เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ การกินผลไม้เป็นประจำจึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้
บลูเบอร์รี่
บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีขนาดเล็ก มีสีม่วงเข้ม อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโทไซยานิน (Anthocyanins) และโพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายของอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง และโรคอัลไซเมอร์
นอกจากนี้ บลูเบอร์รี่ยังมีวิตามินซี วิตามินเค และไฟเบอร์สูงอีกด้วย วิตามินซีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง วิตามินเคช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และไฟเบอร์ช่วยระบบขับถ่ายให้ทำงานเป็นปกติ
กล้วย
กล้วยเป็นผลไม้ที่หารับประทานได้ง่าย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินบี วิตามินซี โพแทสเซียม และแมงกานีส วิตามินบีช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง โพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันโลหิต และแมงกานีสช่วยสร้างกระดูกและเนื้อเยื่อ
กล้วยยังเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง จึงเป็นแหล่งพลังงานที่ดีของร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหรือต้องการเพิ่มพลังงาน
แอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา ไฟเบอร์ช่วยระบบขับถ่ายให้ทำงานเป็นปกติ และสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายของอนุมูลอิสระ
นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังมีสารเพกติน (Pectin) ซึ่งเป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำ ช่วยจับไขมันและคอเลสเตอรอลในทางเดินอาหาร ทำให้ร่างกายดูดซึมไขมันและคอเลสเตอรอลได้น้อยลง จึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
ส้ม
ส้มเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ป้องกันหวัด ป้องกันโรคมะเร็ง และช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส
นอกจากนี้ ส้มยังมีโพแทสเซียมสูง ช่วยควบคุมความดันโลหิต และยังมีวิตามินเอ วิตามินบี และไฟเบอร์อีกด้วย
อะโวคาโด
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไขมันดีสูง ไขมันดีช่วยบำรุงหัวใจ ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน
นอกจากนี้ อะโวคาโดยังมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินบี วิตามินอี โพแทสเซียม แมกนีเซียม และไฟเบอร์อีกด้วย
แครนเบอร์รี่
แครนเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
นอกจากนี้ แครนเบอร์รี่ยังมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ โพแทสเซียม และไฟเบอร์อีกด้วย
มะละกอ
มะละกอเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินซีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา ไฟเบอร์ช่วยระบบขับถ่ายให้ทำงานเป็นปกติ และสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายของอนุมูลอิสระ
นอกจากนี้ มะละกอยังมีเอนไซม์ปาเปอิน (Papain) ซึ่งเป็นเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร
แตงโม
แตงโมเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยน้ำสูง จึงช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น นอกจากนี้ แตงโมยังมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินเอ โพแทสเซียม และไลโคปีน (Lycopene) วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา โพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันโลหิต และไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
การกินผลไม้ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรล้างให้สะอาดก่อนรับประทาน ไม่ควรกินผลไม้มากเกินไปในคราวเดียว เพราะอาจทำให้ท้องอืดได้ แนะนำให้กินผลไม้หลังอาหารประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือกินเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อก็ได้
นอกจากผลไม้ที่กล่าวมาแล้ว ยังมีผลไม้อื่นๆ ที่มีประโยชน์อีกมากมาย เช่น กีวี สตรอว์เบอร์รี่ มะเขือเทศ มะนาว ฝรั่ง เป็นต้น ควรเลือกกินผลไม้หลากหลายชนิดเพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน
