ผลไม้เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร แต่ผลไม้บางชนิดก็มีปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้
ดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index: GI) เป็นค่าที่แสดงถึงระดับน้ำตาลในเลือดที่เพิ่มขึ้นหลังรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต โดยค่า GI อยู่ระหว่าง 0-100 ค่า GI ที่ต่ำกว่า 55 ถือว่าอยู่ในระดับต่ำ ค่า GI ที่อยู่ระหว่าง 56-69 ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง และค่า GI ที่สูงกว่า 70 ถือว่าอยู่ในระดับสูง
โดยทั่วไป ผู้ป่วยเบาหวานควรเลือกรับประทานผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำหรือปานกลาง เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผลไม้ที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ เช่น
- ฝรั่ง
- แอปเปิ้ล
- แก้วมังกร
- สตรอเบอร์รี่
- ส้ม
- ชมพู่
- สาลี่
- กล้วยน้ำว้า (ห่าม)
ผลไม้ที่มีดัชนีน้ำตาลปานกลาง เช่น
- มะมวงดิบ
- เงาะ
- มะละกอสุก
- แคนตาลูป
ผลไม้ที่มีดัชนีน้ำตาลสูง เช่น
- กล้วยหอมสุก
- ลำไย
- แตงโม
- ขนุน
- ลิ้นจี่
- ทุเรียน
- สับปะรด
- อินทผาลัม
- มะขามหวาน
นอกจากนี้ ผู้ป่วยเบาหวานควรรับประทานผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม โดยไม่ควรรับประทานผลไม้มากกว่า 2 ผลต่อวัน และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผลไม้ร่วมกับอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ขนมปัง ข้าว หรือแป้ง
เคล็ดลับในการเลือกรับประทานผลไม้สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
- เลือกรับประทานผลไม้สดแทนผลไม้กระป๋องหรือผลไม้เชื่อม
- เลือกรับประทานผลไม้ที่มีเนื้อแข็ง เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง แก้วมังกร แทนผลไม้ที่มีเนื้อนิ่ม เช่น มะม่วง ทุเรียน ลำไย
- รับประทานผลไม้พร้อมกับเนื้อสัตว์หรือไข่ เพื่อชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และควบคุมปริมาณอาหารอย่างเหมาะสม จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานได้