โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal reflux disease: GERD) คือ ภาวะที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก คลื่นไส้ อาเจียน ไอเรื้อรัง เจ็บคอ เป็นต้น
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
อาหารที่กระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน ได้แก่
- อาหารรสจัด เช่น อาหารที่มีพริก มะนาว น้ำส้มสายชู เป็นต้น
- อาหารมัน อาหารทอด อาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารทะเลทอด เป็นต้น
- อาหารเปรี้ยว เช่น มะเขือเทศ มะนาว ผลไม้รสเปรี้ยว เป็นต้น
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เป็นต้น
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เมื่อรับประทานอาหารเหล่านี้เข้าไป จะทำให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดมากขึ้น และทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนล่างเปิดออกง่ายขึ้น ส่งผลให้กรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น
วิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดกรดไหลย้อน มีดังนี้
- หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน
- รับประทานอาหารให้ตรงเวลา ไม่รับประทานอาหารมื้อใหญ่
- รับประทานอาหารปริมาณน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง
- ไม่ควรรับประทานอาหารก่อนนอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
การลดน้ำหนัก
น้ำหนักที่มากเกินไปจะเพิ่มความดันในช่องท้อง ทำให้กรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น ดังนั้นหากมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ควรลดน้ำหนักลง โดยออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และควบคุมอาหาร
การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่ทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนล่างทำงานผิดปกติ ส่งผลให้กรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
การผ่อนคลายความเครียด
ความเครียดทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนล่างทำงานผิดปกติ ส่งผลให้กรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น จึงควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น ออกกำลังกาย ฝึกสมาธิ เป็นต้น
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ส่งผลให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างทำงานผิดปกติ ส่งผลให้กรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น ดังนั้นควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
การสวมเสื้อผ้าที่สบาย ไม่รัดแน่น
เสื้อผ้าที่รัดแน่นจะเพิ่มความดันในช่องท้อง ทำให้กรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น ดังนั้นควรสวมเสื้อผ้าที่สบาย ไม่รัดแน่น
การหลีกเลี่ยงการนอนราบหลังรับประทานอาหารทันที
การนอนราบหลังรับประทานอาหารทันทีจะทำให้กรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเมื่อร่างกายอยู่ในท่าราบ กรดในกระเพาะอาหารจะไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหารได้ง่ายขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการนอนราบหลังรับประทานอาหารทันที ควรรออย่างน้อย 3 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารจึงจะนอนได้
หากปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว อาการกรดไหลย้อนจะดีขึ้นหรือหายไปได้ แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรงขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป