ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย มีหน้าที่สำคัญในการขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายมีพลังงาน เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง
สำหรับเด็ก ธาตุเหล็กมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการทางร่างกายและสมอง โดยเฉพาะในช่วงวัยทารกและเด็กเล็กที่ร่างกายมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ธาตุเหล็กจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกให้แข็งแรง ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันภาวะโลหิตจาง
ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กเป็นภาวะที่ร่างกายมีปริมาณธาตุเหล็กในเลือดไม่เพียงพอ ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ซีด เบื่ออาหาร และเติบโตช้า
เด็กที่ขาดธาตุเหล็กอาจมีอาการดังนี้
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- หายใจลำบาก
- ซีด
- เบื่ออาหาร
- เติบโตช้า
- พัฒนาการทางร่างกายและสมองล่าช้า
การได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพออาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางร่างกายและสมองของเด็กในระยะยาวได้ ดังนั้น เด็กจึงควรได้รับธาตุเหล็กเพียงพอตามความต้องการในแต่ละช่วงวัย
ความต้องการธาตุเหล็กของเด็กในแต่ละช่วงวัย ดังนี้
- ทารกแรกเกิด : 0.27 มิลลิกรัมต่อวัน
- เด็กเล็ก (อายุ 1-3 ปี) : 7 มิลลิกรัมต่อวัน
- เด็กวัยเรียน (อายุ 4-8 ปี) : 10 มิลลิกรัมต่อวัน
- เด็กวัยรุ่น (อายุ 9-13 ปี) : 8 มิลลิกรัมต่อวัน
เด็กสามารถได้รับธาตุเหล็กจากอาหารได้ โดยแหล่งอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่
- เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อแดง เนื้อสัตว์ปีก ตับ ไต
- ปลา
- ไข่
- ถั่วและผลิตภัณฑ์จากถั่ว
- เมล็ดพืช
- ผักใบเขียว
หากเด็กมีความเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็ก เช่น เด็กที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ เด็กที่เป็นโรค celiac disease หรือเด็กที่มีปัญหาการดูดซึมธาตุเหล็ก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการให้ยาเสริมธาตุเหล็ก