แหล่งพลังงานที่ดี
กล้วยเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลธรรมชาติสูง น้ำตาลในกล้วยเป็นน้ำตาลซูโครส ฟรุกโตส และกาแลคโตส ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้เป็นพลังงานได้ทันที จึงเหมาะสำหรับการรับประทานเป็นอาหารเช้าหรือของว่างระหว่างวัน ช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอสำหรับการทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งวัน
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
กล้วยมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงหรือต่ำเกินไป เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
กล้วยมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิตและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โพแทสเซียมเป็นเกลือแร่ที่มีความสำคัญต่อร่างกายหลายประการ เช่น ช่วยควบคุมความดันโลหิต รักษาสมดุลของอิเล็กโตรไลต์ในร่างกาย และช่วยในการส่งสัญญาณประสาท
ช่วยป้องกันโรคท้องผูก
กล้วยมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นการขับถ่ายและป้องกันโรคท้องผูก เส้นใยอาหารช่วยดูดซับน้ำและเพิ่มปริมาตรของอุจจาระ ทำให้อุจจาระเคลื่อนผ่านลำไส้ได้ง่ายขึ้น
ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
กล้วยมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในระบบภูมิคุ้มกัน
ช่วยบำรุงสมอง
กล้วยมีวิตามินบี 6 และแมงกานีส ซึ่งช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท วิตามินบี 6 ช่วยให้ร่างกายสร้างสารสื่อประสาทที่จำเป็นในการทำงานของสมอง เช่น โดปามีน ซีโรโทนิน และนอร์อะดรีนาลีน แมงกานีสเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
สารต้านอนุมูลอิสระ
กล้วยมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โพลีฟีนอล และฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารสำคัญที่ช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน
การรับประทานกล้วยเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอาการแพ้กล้วย ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกล้วย
ปริมาณที่เหมาะสมในการรับประทานกล้วยต่อวัน คือ 1-2 ผล ขึ้นอยู่กับขนาดของผลกล้วยและความต้องการของร่างกาย ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานกล้วย