ทำความสะอาดตู้เสื้อผ้า:
- ทำความสะอาดอย่างล้ำลึก:
- นำเสื้อผ้าทั้งหมดออกจากตู้
- ถอดชั้นวางของและลิ้นชักออกมา (ถ้ามี)
- ใช้ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดฝุ่นละอองตามพื้น ผนัง ชั้นวางของ และลิ้นชัก
- เช็ดคราบสกปรกด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ผสมน้ำยาล้างจานอ่อนๆ
- ล้างชั้นวางของและลิ้นชักด้วยน้ำสะอาด
- เช็ดให้แห้งสนิทด้วยผ้าสะอาด
- ทิ้งตู้เสื้อผ้าไว้ให้แห้งสนิทอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนนำเสื้อผ้ากลับมาเก็บ
- ทำความสะอาดเป็นประจำ:
- ทำความสะอาดฝุ่นละอองในตู้เสื้อผ้าอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
- เช็ดคราบสกปรกออกทันที
- ดูดความชื้นในตู้เสื้อผ้าด้วยถ้วยหรือภาชนะที่มีเบกกิ้งโซดา หรือ ซิลิกาเจล
ดูดซับความชื้น:
- เบกกิ้งโซดา:
- ใส่เบกกิ้งโซดาลงในถ้วยหรือภาชนะที่มีรูระบายอากาศ
- วางถ้วยหรือภาชนะไว้ในตู้เสื้อผ้า 4 มุม
- เปลี่ยนเบกกิ้งโซดาใหม่ทุกเดือน
- กากกาแฟ:
- ใส่กากกาแฟลงในถุงผ้า
- วางถุงผ้าไว้ในตู้เสื้อผ้า 4 มุม
- เปลี่ยนกากกาแฟใหม่ทุก 2 สัปดาห์
- ถ่านหุงต้ม:
- ห่อถ่านหุงต้มด้วยผ้าขาวบาง
- วางถ่านหุงต้มไว้ในตู้เสื้อผ้า 4 มุม
- เปลี่ยนถ่านหุงต้มใหม่ทุกเดือน
- เครื่องดูดความชื้น:
- เลือกเครื่องดูดความชื้นที่มีขนาดเหมาะสมกับตู้เสื้อผ้า
- วางเครื่องดูดความชื้นในตู้เสื้อผ้า
- เทน้ำออกจากถังเก็บน้ำของเครื่องดูดความชื้นเป็นประจำ
เพิ่มกลิ่นหอม:
- ก้อนสบู่หอม:
- เลือกกลิ่นสบู่ที่ชื่นชอบ
- วางก้อนสบู่หอมไว้ในตู้เสื้อผ้า
- เปลี่ยนก้อนสบู่ใหม่ทุก 3 เดือน
- ซองหอม:
- เลือกกลิ่นซองหอมที่ชื่นชอบ
- แขวนซองหอมไว้ในตู้เสื้อผ้า
- เปลี่ยนซองหอมใหม่ทุก 2 เดือน
- กิ่งไม้หอม:
- เลือกกิ่งไม้หอมที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เช่น ไม้สน ซีดาร์
- วางกิ่งไม้หอมไว้ในตู้เสื้อผ้า
- เปลี่ยนกิ่งไม้หอมใหม่ทุก 3 เดือน
- น้ำหอมปรับอากาศ:
- เลือกน้ำหอมปรับอากาศที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
- ฉีดน้ำหอมปรับอากาศในตู้เสื้อผ้าเล็กน้อย
- ไม่ควรฉีดน้ำหอมปรับอากาศมากเกินไป เพราะอาจทำให้กลิ่นฉุน
ป้องกันปัญหากลิ่นอับ:
- เก็บเสื้อผ้าที่แห้งสนิท:
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสื้อผ้าแห้งสนิทก่อนนำเก็บ
- เสื้อผ้าที่เปียกหรือชื้นจะทำให้เกิดกลิ่นอับ
- ไม่เก็บเสื้อผ้าที่สกปรก:
- เสื้อผ้าที่สกปรกจะทำให้เกิดกลิ่นอับและแบคทีเรีย
- ซักเสื้อผ้าให้สะอาดก่อนนำเก็บ
- ระบายอากาศ:
- เปิดประตูตู้เสื้อผ้าบ้างเพื่อระบายอากาศ
- เปิดหน้าต่างห้องที่ตู้เสื้อผ้าอยู่บ้าง
- นำเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่:
- นำเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ เก็บไว้ในกล่องหรือถุงผ้า
- เสื้อผ้าที่อัดแน่นในตู้เสื้อผ้าจะกีดขวางการระบายอากาศ
- ใช้ไม้แขวนเสื้อที่มีคุณภาพดี:
- ไม้แขวนเสื้อที่มีคุณภาพดีจะช่วยให้เสื้อผ้าระบายอากาศได้ดี
- หลีกเลี่ยงการใช้ไม้แขวนเสื้อที่หนาหรือหนัก
- วางแผ่นกันความชื้น:
- วางแผ่นกันความชื้นไว้ที่พื้นตู้เสื้อผ้า
- แผ่นกันความชื้นจะช่วยป้องกันความชื้นจากพื้นดิน
- ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ:
- ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในห้องที่มีตู้เสื้อผ้า
- เครื่องฟอกอากาศจะช่วยขจัดกลิ่นอับและฝุ่นละออง
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
- ผึ่งแดดเสื้อผ้า:
- ผึ่งแดดเสื้อผ้าเป็นประจำเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและกำจัดกลิ่นอับ
- แสงแดดจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอม
- ใช้เครื่องอบผ้า:
- ใช้เครื่องอบผ้าเพื่ออบเสื้อผ้าให้แห้งสนิท
- เครื่องอบผ้าจะช่วยขจัดความชื้นและกลิ่นอับ
- ใช้สเปรย์กำจัดกลิ่น:
- ใช้สเปรย์กำจัดกลิ่นฉีดในตู้เสื้อผ้า
- เลือกสเปรย์กำจัดกลิ่นที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
- ใช้เครื่องพ่นอโรม่า:
- ใช้เครื่องพ่นอโรม่าเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมในตู้เสื้อผ้า
- เลือกน้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เช่น ลาเวนเดอร์ ยูคาลิปตัส
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ และช่วยให้คุณสามารถกำจัดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าได้