ปัจจัยภายใน
- พันธุกรรม บางคนมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น
- ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น โรคเอดส์ โรคลูปัส เป็นต้น มักมีความเสี่ยงที่จะเกิดผื่นคันได้มากขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ผู้หญิงในช่วงตั้งครรภ์หรือวัยหมดประจำเดือน มักมีอาการคันตามผิวหนังได้บ่อยขึ้น
- โรคทางระบบอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต เป็นต้น มักทำให้เกิดผื่นคันได้
ปัจจัยภายนอก
- สารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสร ขนสัตว์ อาหารบางชนิด ยาบางชนิด เป็นต้น
- สารระคายเคือง เช่น สบู่ โลชั่น น้ำหอม สารเคมี เป็นต้น
- แมลงสัตว์กัดต่อย
- การติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา เป็นต้น
- สภาพอากาศ เช่น อากาศร้อน อากาศเย็น อากาศแห้ง เป็นต้น
ผื่นคันชนิดต่างๆ เกิดจากสาเหตุอะไร
ผื่นคันชนิดต่างๆ อาจมีสาเหตุที่แตกต่างกันไป ดังนี้
- ลมพิษ เกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ เช่น อาหาร ยา ไรฝุ่น ละอองเกสร เป็นต้น
- ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสร ขนสัตว์ เป็นต้น มักพบผื่นบริเวณข้อพับแขน ข้อพับขา คอ ใบหน้า เป็นต้น
- ผิวแห้ง เกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น อากาศแห้ง การใช้สบู่หรือโลชั่นที่มีสารระคายเคือง เป็นต้น มักพบผื่นบริเวณแขนขา ลำตัว เป็นต้น
- ผิวแพ้ง่าย เกิดจากผิวที่ไวต่อสารระคายเคืองได้ง่ายกว่าปกติ มักพบผื่นบริเวณที่สัมผัสกับสารระคายเคือง เช่น ใบหน้า ลำคอ แขนขา เป็นต้น
- สะเก็ดเงิน เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดจากเซลล์ผิวหนังมีการแบ่งตัวเร็วเกินไป มักพบผื่นบริเวณหนังศีรษะ ศอก ข้อมือ หัวเข่า เป็นต้น
- กลาก เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา มักพบผื่นบริเวณหนังศีรษะ ลำตัว แขนขา เป็นต้น
- เกลื้อน เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา มักพบผื่นบริเวณลำตัว แขนขา เป็นต้น
- อีสุกอีใส เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อไวรัส มักพบผื่นบริเวณลำตัว แขนขา เป็นต้น
หากพบผื่นคัน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างถูกต้อง ไม่ควรซื้อยามารับประทานหรือทาเอง เพราะอาจรักษาไม่ตรงจุดและทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้