การรักษาใหม่ช่วยฟื้นฟูการดมกลิ่นในบางคนที่เป็นโรคโควิด-19

การรักษาใหม่ช่วยฟื้นฟูการดมกลิ่นในบางคนที่เป็นโรคโควิด-19 01

การสูญเสียการดมกลิ่นเป็นอาการที่พบบ่อยของโรคโควิด-19 โดยประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 รายงานว่าสูญเสียการดมกลิ่น อาการนี้อาจคงอยู่นานหลายเดือนหรือหลายปีหลังจากการติดเชื้อ โดยบางคนอาจไม่สามารถฟื้นฟูการดมกลิ่นได้

การรักษาใหม่ที่เรียกว่า “การบำบัดด้วยกลิ่น” (olfactory training) แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการช่วยฟื้นฟูการดมกลิ่นในบางคนที่เป็นโรคโควิด-19

การบำบัดด้วยกลิ่นเป็นกระบวนการที่ผู้ป่วยจะสูดดมกลิ่นต่างๆ ซ้ำๆ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ เป้าหมายคือเพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทที่ทำหน้าที่รับกลิ่น

การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet Respiratory Medicine ในปี 2022 พบว่า การบำบัดด้วยกลิ่นสามารถช่วยฟื้นฟูการดมกลิ่นได้อย่างมากในผู้ป่วยที่เป็นโรคโควิด-19

การศึกษานี้รวมถึงผู้ป่วยโควิด-19 ระยะยาว 100 คน ที่สูญเสียการดมกลิ่นเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ผู้ป่วยเหล่านี้ได้รับการบำบัดด้วยกลิ่นเป็นเวลา 8 สัปดาห์

ผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยที่เข้าร่วมการบำบัดด้วยกลิ่นสามารถฟื้นฟูการดมกลิ่นได้ดีกว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษา โดย 60% ของผู้ป่วยที่เข้าร่วมการบำบัดด้วยกลิ่นสามารถระบุกลิ่นได้ถูกต้องอย่างน้อย 4 ใน 5 ครั้ง เทียบกับ 20% ของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษา

การศึกษายังพบว่า การบำบัดด้วยกลิ่นสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวมของผู้ป่วยโควิด-19 ระยะยาวได้

วิธีดำเนินการบำบัดด้วยกลิ่น

การบำบัดด้วยกลิ่นสามารถทำได้ที่บ้านหรือที่คลินิก โดยทั่วไป ผู้ป่วยจะได้รับการบำบัดสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เป็นเวลา 8-12 สัปดาห์

ในระหว่างการบำบัด ผู้ป่วยจะสูดดมกลิ่นต่างๆ ประมาณ 10-15 นาทีต่อครั้ง กลิ่นที่ใช้ในการรักษามักเป็นกลิ่นที่พบได้บ่อย เช่น กาแฟ มะนาว ดอกไม้ หรือผลไม้

ผู้ป่วยอาจเริ่มด้วยการสูดดมกลิ่นเบาๆ และค่อยๆ เพิ่มระดับความเข้มข้นของกลิ่นเมื่อเวลาผ่านไป

ผลข้างเคียงของการรักษา

การบำบัดด้วยกลิ่นโดยทั่วไปมีความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการข้างเคียง เช่น เวียนศีรษะ ปวดหัว หรือคลื่นไส้

หากมีอาการข้างเคียงใดๆ ควรแจ้งให้แพทย์หรือนักบำบัดทราบ

สรุป

การบำบัดด้วยกลิ่นเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่อาจช่วยฟื้นฟูการดมกลิ่นในบางคนที่เป็นโรคโควิด-19 หากท่านหรือคนที่ท่านรู้จักกำลังประสบปัญหาการสูญเสียการดมกลิ่น ควรปรึกษาแพทย์หรือนักบำบัดเพื่อพิจารณาการรักษาด้วยกลิ่น

Articles You Might Like

Share This Article

Get Your Weekly Sport Dose

Subscribe to TheWhistle and recieve notifications on new sports posts