โรคเบาหวาน รับประทานอะไรได้บ้าง?

ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับที่เหมาะสม อาหารที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถรับประทานได้ มีดังนี้

ผัก ผักทุกชนิดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากมีใยอาหารสูง ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้ เช่น ผักใบเขียว ผักบุ้ง คะน้า ผักกาดหอม บร็อคโคลี มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น

ผลไม้ ผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล ส้ม มะละกอ ชมพู่ แตงโม เป็นต้น ควรรับประทานผลไม้วันละ 2-3 ส่วน โดยเลือกผลไม้ขนาดกลาง 1 ส่วน หรือผลไม้ขนาดเล็ก 2-3 ส่วน

เนื้อสัตว์ ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา เนื้อวัวไม่ติดมัน เป็นต้น

ธัญพืช ธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ เป็นต้น เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

ไขมันดี ไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันปลา เป็นต้น ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด

นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม ผลไม้เชื่อม ผลไม้อบแห้ง เป็นต้น ควรจำกัดการรับประทานแป้งและข้าวขาว เนื่องจากร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลจากแป้งและข้าวขาวได้อย่างรวดเร็ว ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เนื่องจากไฟเบอร์ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้

ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อขอคำแนะนำในการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผัก

โรคเบาหวาน รับประทานอะไรได้บ้าง 02 (1)

ผักทุกชนิดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากมีใยอาหารสูง ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้ ผักที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ได้แก่

  • ผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง คะน้า ผักกาดหอม บร็อคโคลี ผักโขม เป็นต้น
  • ผักที่มีสีสันสดใส เช่น มะเขือเทศ มะละกอ แตงกวา เป็นต้น
  • ผักที่มีหัว เช่น แครอท หัวหอม หัวไชเท้า เป็นต้น

ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานผักให้ได้วันละ 5-7 ทัพพี โดยแบ่งรับประทานให้ทั่วทุกมื้อ

ผลไม้

โรคเบาหวาน รับประทานอะไรได้บ้าง 03

ผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล ส้ม มะละกอ ชมพู่ แตงโม เป็นต้น ควรรับประทานผลไม้วันละ 2-3 ส่วน โดยเลือกผลไม้ขนาดกลาง 1 ส่วน หรือผลไม้ขนาดเล็ก 2-3 ส่วน

ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลำไย เป็นต้น ควรหลีกเลี่ยงหรือรับประทานในปริมาณที่จำกัด

ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานผลไม้สดเท่านั้น ไม่แนะนำให้รับประทานผลไม้เชื่อม ผลไม้อบแห้ง หรือผลไม้ที่มีน้ำเชื่อมเป็นส่วนประกอบ

เนื้อสัตว์

โรคเบาหวาน รับประทานอะไรได้บ้าง 04

ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา เนื้อวัวไม่ติดมัน เป็นต้น ไม่ควรรับประทานเนื้อสัตว์ติดมัน เนื้อสัตว์แปรรูป หรือเนื้อสัตว์ที่มีไขมันทรานส์

เนื้อสัตว์ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ได้แก่

  • เนื้อไก่ เช่น อกไก่ น่องไก่ไม่ติดหนัง
  • เนื้อปลา เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน ปลากะพง
  • เนื้อวัว เช่น เนื้อสันใน เนื้อสันนอก

ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานเนื้อสัตว์วันละ 2-3 ขีด

ธัญพืช

ธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ เป็นต้น เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

ธัญพืชที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ได้แก่

  • ข้าวกล้อง
  • ข้าวโอ๊ต
  • ข้าวบาร์เลย์
  • ขนมปังโฮลวีต

ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานธัญพืชวันละ 3-4 ทัพพี

ไขมันดี

ไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันปลา เป็นต้น ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด

ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานไขมันดีวันละ 2-3 ช้อนโต๊ะ

ตัวอย่างเมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

อาหารเช้า

  • ข้าวกล้อง 2 ทัพพี
  • ไข่ต้ม 2 ฟอง
  • ผักต้ม 1 ถ้วย

อาหารกลางวัน

  • แกงส้มผักรวม
  • ปลานึ่ง
  • ข้าวกล้อง 2 ทัพพี

อาหารเย็น

  • ต้มยำไก่
  • อกไก่ย่าง
  • ผักลวก

ของว่าง

  • ผลไม้สด 1 ส่วน
  • โยเกิร์ตไขมันต่ำ 1 ถ้วย

ปริมาณอาหาร

ปริมาณอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อายุ เพศ น้ำหนักตัว ระดับน้ำตาลในเลือด กิจกรรมที่ทำ เป็นต้น ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อขอคำแนะนำในการกำหนดปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับตนเอง

คำแนะนำในการรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

  • ควรรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ และควรรับประทานอาหารมื้อเช้าให้ตรงเวลา
  • ควรรับประทานอาหารให้เป็นเวลา ไม่ควรปล่อยให้หิวหรือปล่อยให้อิ่มมากเกินไป
  • ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลต่ำ ไขมันต่ำ และใยอาหารสูง
  • ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม ผลไม้เชื่อม ผลไม้อบแห้ง เป็นต้น
  • ควรจำกัดการรับประทานแป้งและข้าวขาว เนื่องจากร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลจากแป้งและข้าวขาวได้อย่างรวดเร็ว
  • ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เนื่องจากไฟเบอร์ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้
  • ควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

การรับประทานอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ

Articles You Might Like

Share This Article

Get Your Weekly Sport Dose

Subscribe to TheWhistle and recieve notifications on new sports posts