ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และควบคุมปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับที่เหมาะสม อาหารที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถรับประทานได้ มีดังนี้
ผัก ผักทุกชนิดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากมีใยอาหารสูง ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้ เช่น ผักใบเขียว ผักบุ้ง คะน้า ผักกาดหอม บร็อคโคลี มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น
ผลไม้ ผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล ส้ม มะละกอ ชมพู่ แตงโม เป็นต้น ควรรับประทานผลไม้วันละ 2-3 ส่วน โดยเลือกผลไม้ขนาดกลาง 1 ส่วน หรือผลไม้ขนาดเล็ก 2-3 ส่วน
เนื้อสัตว์ ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา เนื้อวัวไม่ติดมัน เป็นต้น
ธัญพืช ธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ เป็นต้น เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
ไขมันดี ไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันปลา เป็นต้น ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด
นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม ผลไม้เชื่อม ผลไม้อบแห้ง เป็นต้น ควรจำกัดการรับประทานแป้งและข้าวขาว เนื่องจากร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลจากแป้งและข้าวขาวได้อย่างรวดเร็ว ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เนื่องจากไฟเบอร์ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้
ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อขอคำแนะนำในการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผัก
ผักทุกชนิดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากมีใยอาหารสูง ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้ ผักที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ได้แก่
- ผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง คะน้า ผักกาดหอม บร็อคโคลี ผักโขม เป็นต้น
- ผักที่มีสีสันสดใส เช่น มะเขือเทศ มะละกอ แตงกวา เป็นต้น
- ผักที่มีหัว เช่น แครอท หัวหอม หัวไชเท้า เป็นต้น
ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานผักให้ได้วันละ 5-7 ทัพพี โดยแบ่งรับประทานให้ทั่วทุกมื้อ
ผลไม้
ผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล ส้ม มะละกอ ชมพู่ แตงโม เป็นต้น ควรรับประทานผลไม้วันละ 2-3 ส่วน โดยเลือกผลไม้ขนาดกลาง 1 ส่วน หรือผลไม้ขนาดเล็ก 2-3 ส่วน
ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลำไย เป็นต้น ควรหลีกเลี่ยงหรือรับประทานในปริมาณที่จำกัด
ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานผลไม้สดเท่านั้น ไม่แนะนำให้รับประทานผลไม้เชื่อม ผลไม้อบแห้ง หรือผลไม้ที่มีน้ำเชื่อมเป็นส่วนประกอบ
เนื้อสัตว์
ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา เนื้อวัวไม่ติดมัน เป็นต้น ไม่ควรรับประทานเนื้อสัตว์ติดมัน เนื้อสัตว์แปรรูป หรือเนื้อสัตว์ที่มีไขมันทรานส์
เนื้อสัตว์ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ได้แก่
- เนื้อไก่ เช่น อกไก่ น่องไก่ไม่ติดหนัง
- เนื้อปลา เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน ปลากะพง
- เนื้อวัว เช่น เนื้อสันใน เนื้อสันนอก
ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานเนื้อสัตว์วันละ 2-3 ขีด
ธัญพืช
ธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ เป็นต้น เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
ธัญพืชที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ได้แก่
- ข้าวกล้อง
- ข้าวโอ๊ต
- ข้าวบาร์เลย์
- ขนมปังโฮลวีต
ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานธัญพืชวันละ 3-4 ทัพพี
ไขมันดี
ไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันปลา เป็นต้น ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด
ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานไขมันดีวันละ 2-3 ช้อนโต๊ะ
ตัวอย่างเมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
อาหารเช้า
- ข้าวกล้อง 2 ทัพพี
- ไข่ต้ม 2 ฟอง
- ผักต้ม 1 ถ้วย
อาหารกลางวัน
- แกงส้มผักรวม
- ปลานึ่ง
- ข้าวกล้อง 2 ทัพพี
อาหารเย็น
- ต้มยำไก่
- อกไก่ย่าง
- ผักลวก
ของว่าง
- ผลไม้สด 1 ส่วน
- โยเกิร์ตไขมันต่ำ 1 ถ้วย
ปริมาณอาหาร
ปริมาณอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อายุ เพศ น้ำหนักตัว ระดับน้ำตาลในเลือด กิจกรรมที่ทำ เป็นต้น ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อขอคำแนะนำในการกำหนดปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับตนเอง
คำแนะนำในการรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ควรรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ และควรรับประทานอาหารมื้อเช้าให้ตรงเวลา
- ควรรับประทานอาหารให้เป็นเวลา ไม่ควรปล่อยให้หิวหรือปล่อยให้อิ่มมากเกินไป
- ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลต่ำ ไขมันต่ำ และใยอาหารสูง
- ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม ผลไม้เชื่อม ผลไม้อบแห้ง เป็นต้น
- ควรจำกัดการรับประทานแป้งและข้าวขาว เนื่องจากร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลจากแป้งและข้าวขาวได้อย่างรวดเร็ว
- ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เนื่องจากไฟเบอร์ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้
- ควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
การรับประทานอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เนื่องจากจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ